เนื่องจากจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัดขึ้น จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเริ่มจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2555 โดยได้ประมาณการรายได้จากโครงการดังกล่าวประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งโครงการดังกล่าวมีสัญญาเป็นระยะเวลา 10 ปี และมีรายได้ตลอดอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท
ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว 70% ซึ่งคาดว่าภายในต้นไตรมาส 4/56 จะสามารถผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ปลายปี 56 โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากธุรกิจพลังงานจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 56 โดยที่บริษัทมีแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันรายได้และกำไรให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปีนี้ที่เติบโตโดดเด่นเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องนับจากไตรมาสแรก ที่ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้ถือหุ้นเป็นอย่างมาก โดยกิจการสิ่งพิมพ์มีกำไรเพิ่มขึ้น 168% หรือ 20.65 ล้านบาท และกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่งเริ่มมีกำไร 20.46 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่อำเภอบ่อพลอย
บริษัทรายงานในไตรมาส 2/56 มีกำไรสุทธิจำนวน 41.29 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 6.49ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.8 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 536.38% โดยสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 2/56 ของ EPCO ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้รวม 190.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 160.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 14.4%
ขณะที่งวด 6 เดือน (มกราคม — มิถุนายน 2556) บริษัทมีกำไรสุทธิ 88.4 ล้านบาท (หรือ 0.17 บาท/หุ้น) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28.11 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 214.47 % โดยบริษัทมีรายได้รวมที่ 416.4 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 340.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 22.3%