(เพิ่มเติม) RATCH คาดกำไรปี56 ดีกว่าปี 55, ดึงพันธมิตรยื่นประมูลซื้อโรงไฟฟ้าแมคควารีใน ต.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 9, 2013 14:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวุฒิชัย ตันกุรานันท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงิน บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) คาดว่า กำไรก่อนหักรายการพิเศษและอัตราแลกเปลี่ยนจะดีกว่าปี 55 ที่อยู่ในระดับประมาณ 5,500 ล้านบาท โดยในปีก่อนมีกำไรพิเศษจากการขายโรงไฟฟ้า 1.8 พันล้านบาท ขณะที่ปีนี้ค่าเสื่อมราคาลดลงราว 300 ล้านบาท/ปีหลังขายโรงไฟฟ้าออกไป และจากการปรับโครงสร้างเงินกู้ราว 1 หมื่นล้านบาทสามารถลดต้นทุนดอกเบี้ยลงได้ 1% ทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงไป 500 ล้านบาท ซึ่งเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2/56

บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังปี 56 กำไรน่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกก็คงจะต่ำกว่า ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลที่ช่วงครึ่งปีหลังจำนวนวันที่จ่ายไฟน้อยกว่า และปีนี้โรงไฟฟ้าก๊าซปิดซ่อมบางส่วน

อนึ่ง ในช่วงครึ่งแรกปี 56 มีกำไรก่อนหักรายการพิเศษและอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 3.3 พันล้านบาท สูงขึ้น 52% จากครึ่งแรกปี 55 ที่มีกำไรก่อนหักรายการพิเศษและอัตราแลกเปลี่ยน 2.2 พันล้านบาท

นายพีระวัฒน์ พุ่มทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ วางแผนและพัฒนาธุรกิจ RATCH กล่าวว่า บริษัทจะยื่นหนังสือแสดงความจำนงเข้าประมูลซื้อโรงไฟฟ้าแมคควารี่ มลรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย กำลังการผลิตติดตั้ง 4,640 เมกะวัตต์ ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ โดยประเมินว่าโรงไฟฟ้าแมคควาวรี่ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน มีมูลค่าประมาณ 900-1,200 ล้านเหรียญออสเตรเลีย บริษัทเห็นว่าเป็นโครงการมูลค่าสูงจึงจะหาพันธมิตรเข้ามา โดย RATCH จะเข้าถือสัดส่วน 30-40%

บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร 2 รายที่เป็นต่างประเทศ เพื่อให้เข้ามาเสริมในด้านการซื้อขายไฟฟ้าและสายส่งด้วย คาดว่าจะสรุปได้ก่อนที่จะยื่นเสนอประมูลพร้อมราคาในเดือน ต.ค.นี้ และน่าจะรู้ผลประมาณปลายปี 56 หรือต้นปี 57 หลังจากนั้นหากบริษัทชนะประมูลจะสามารถรับรู้รายได้ทันที เพราะโรงไฟฟ้าแมคควารี่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์อยู่แล้ว มีจำนวน 2 โรง โรงแรกมีกำลังผลิต 2,640 เมกะวัตต์ และอีกโรงมีกำลังผลิต 2,000 เมกะวัตต์ มีอายุสัญญาซื้อขายไฟ 10 ปี และ 20 ปี

"โครงการนี้ใช้เงินลงทุนสูง บริษัทได้คุยกับ Strategic Partner เราคุยกับพาร์ทเนอร์ 2 ราย กำลังเจรจาเรื่องเงื่อนไขตกลง เงื่อนไขการลงทุน รายหนึ่งเราคุยได้แล้ว และกำลังคุยอยู่อีกรายหนึ่ง...ตอนนี้มีคนสนใจร่วมประมูลไม่ต่ำกว่า 5 ราย มีจีน ญี่ปุ่น"นายพีระวัฒน์ กล่าว

นายพีระวัฒน์ กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศในเอเชีย 3 โครงการ กำลังผลิตรวม 45 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสรุปผลได้ในไตรมาส 3/56 และเริ่มก่อสร้างปลายปี โดยโครงการแรกคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 3/57 และอีก 2 โครงการจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในปี 58

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินโครงการพลังงานลม 2 แห่ง กำลังผลิตรวม 420 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 1 แห่ง กำลังผลิต 20 เมกะวัตต์ในออสเตรเลีย โดยโครงการพลังงานลมแรกขนาด 180 เมกะวัตต์คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างในไตรมาส 3/56 และเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ต้นปี 58 ส่วนโครงการที่ 2 คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างประมาณต้นปี 57 และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตก่อสร้างภายในปี 56

ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว ออสเตรเลีย รวมถึงการยื่นหนังสือแสดงความจำนงเข้าประมูลซื้อกิจการโรงไฟฟ้าแมคควารี่ มลรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย กำลังการผลิต 4,640 เมกะวัตต์

และในปี 57-61 บริษัทต้องการใช้เงินลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อลงทุนโครงการที่มีแผนชัดเจนแล้วได้แก่ โรงไฟฟ้าหงสา โรงไฟฟ้าพลังงานลมเขาค้อ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียนเซน้ำน้อย โรงผลิตไฟฟ้านวนคร(SPP) เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมเงินทุนสำหรับการลงทุนดังกล่าว โดยปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียน 9.9 พันล้านบาท และยังมีวงเงินหุ้นกู้สกุลบาทจำนวน 7.5 พันล้านบาท และหุ้นกู้สกุลต่างประเทศ วงเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังสามารถใช้เงินกู้ธนาคารได้อีก โดยคาดว่าบริษัทจะใช้เงินหลังรู้ผลประมูลโรงไฟฟ้าแมคควารี่

ปัจจุบัน RATCH มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 5,300 เมกะวัตต์ และในปีหน้าจะมีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1,200 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจที่ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตให้เป็น 7,800 เมกะวัตต์ภายในปี 59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ