เริ่มที่จังหวัดสกลนครมี 1 โครงการที่เปิดพรีเซลไปแล้ว ภายใต้แบรนด์ “สิริวิลเลจ" คือ โครงการ “สิริวิลเลจ สกลนคร-แอร์พอร์ต" ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในทำเลใหม่ของบริษัทโดยพัฒนาเป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคาขายเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท จำนวน 34 ยูนิต มูลค่า 70 ล้านบาท และ อีก 2 โครงการในโซนนนทบุรีที่ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบสาธารณูปโภคที่พร้อมรองรับเช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง และ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อย่างเช่น Central west gate
สำหรับผลดำเนินงานไตรมาส 2/56 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.56 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 20.8 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินถึง 19.3 ล้านบาทหรือ มาจากสาเหตุสำคัญมาจากรายได้จากการขายบ้านเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนประมาณ 71.8 ล้านบาท หรือเทียบเป็นร้อยละ 36.2 โดยมีรายได้จากการขาย 270.2 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 198.4 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องมาจากลูกค้าคลายกังวลเกี่ยวกับเรื่องภาวะน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อภาพรวมยังถือว่า หดตัวลงอันเนื่องมาจากนโยบายรถคันแรก และสภาวะหนี้สินต่อครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯและบริษัทย่อยในไตรมาส 2 ปี 2556 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 25.4 ของไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็นร้อยละ 29.6 เนื่องมาจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนได้รวมค่าใช้จ่ายในการดูแลฟื้นฟูสภาพโครงการ และจัดทำระบบป้องกันน้ำท่วมทุกโครงการ อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2 ของปีนี้ ก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงต้องใช้กลยุทธ์คงราคาขาย เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อที่หดตัวลง ขณะที่ต้นทุนค่าวัสดุ และแรงงานได้ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอด
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการขายทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,900 ล้านบาท โดยเป็นโครงการอยู่ใน จังหวัดนนทบุรี 3 โครงการ ได้แก่ เดอะคลัสเตอร์วิลล์ 4 ราชพฤกษ์—สิรินธร, ไพร์มเพลส เดอะกรีนเนอรี่ บางใหญ่ และ ธนาสิริ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์ มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท และส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือเป็นโครงการที่เปิดขายอยู่ในจังหวัดภูเก็ต คือไพร์มเพลส เนรมิต — อนุสาวรีย์ 2 และสิริ วิลเลจ ภูเก็ต — อนุสาวรีย์