นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีมีโอกาสขยับตัวขึ้นเล็กน้อย จากการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/56 ของบริษัทจดทะเบียนในประเทศที่เริ่มทยอยประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาหนุนดัชนีขยับขึ้น
นอกจากนี้ ปัจจัยเกี่ยวกับการเมืองในประเทศในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก และคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ การเมืองในประเทศจะเริ่มสงบลง ประกอบกับปัจจัยต่างประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ที่ส่งผลเชิงลบต่อตลาด ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มขยับตัวขึ้นได้
สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าส่วนใหญ่ดัชนีเป็นบวก
พร้อมให้แนวต้าน 1,450 จุด แนวรับ 1,420 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(12 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,419.68 จุด ลดลง 5.83 จุด(-0.04%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,689.47 จุด ลดลง 1.95 จุด(-0.12%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,669.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.84 จุด(+0.27%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 176.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.04 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 97.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 32.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.59 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 3.69 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.11 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 2.90 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 ส.ค.) ที่ 1,432.25 จุด ลดลง 14.91 จุด (-1.03%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,333.57 ล้านบาท เมื่อ 9 ส.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(12 ส.ค.)ที่ 106.11 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.13 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(12 ส.ค.)ที่ 9.21 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.25/27 ตลาดรอลุ้นยอดค้าปลีกสหรัฐคืนนี้
- ผู้ประกอบการคึกคักหาแหล่งทุนรับทีวีดิจิทัล แบงก์กสิกรไทยรับเจรจา 5 ราย เน้นปล่อยกู้ผู้ประกอบการที่แข็งแกร่ง ประเมินธุรกิจยังเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ประมูลทีวีดิจิทัล ด้านกรุงไทย คาดวงเงินสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 600-700 ล้านบาท สำรวจบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ระบุ 12 แห่ง เตรียมเงินกว่า 1.45 หมื่นล้าน โบรกเกอร์ประเมินผู้ประมูลได้ต้องแบกภาระขาดทุน 1-2 ปี
- ขั้นตอนประมูลโทรทัศน์ระบบดิจิทัล(ทีวีดิจิทัล) ประเภทธุรกิจ 24 ช่อง จากทั้งหมด 48 ช่อง โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดกรอบเวลาประมูลไว้ต้นเดือนต.ค.นี้ เริ่มเข้าสู่กระบวนการนับถอยหลังตามกำหนดเวลาที่กสทช.เตรียมการให้การออกอากาศทีวีดิจิทัลครั้งแรกของไทย มีขึ้นวันที่5 ธ.ค.นี้
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือปตท.สผ. ปฏิเสธให้ความเห็นภายหลังเว็บไซต์เมียนมาร์ไทมส์รายงานว่า นายอูถั่นเต ถูกย้ายจากตำแหน่ง รมว.พลังงานของพม่าอย่างกะทันหัน เนื่องจากให้สัมปทานแก่ ปตท.สผ. โดยยืนยันว่าไม่มีทางให้สินบนใครได้ เพราะเป็นบริษัทมหาชนที่มีกระบวนการตรวจสอบ และเป็นรัฐวิสาหกิจที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบงบการเงินอย่างเข้มงวด
- "แบงก์ชาติ" เปิดผลสำรวจนักธุรกิจพบส่วนใหญ่จ่อขยับราคาสินค้าเพิ่ม หลังต้นทุนพุ่ง ส่วนแนวโน้มธุรกิจส่อชะลอ จากความเชื่อมั่นผู้ประกอบการต่อแนวโน้มธุรกิจที่อ่อนลง ด้านการบริโภคหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนส่งสัญญาณฟื้น สอดรับความต้องการสินเชื่อที่เพิ่ม
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เผยกระทรวงการคลังจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อกำหนดรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมติคณะรัฐมนตรี โดยจะมีการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ขึ้นมาอยู่ในระบบและลดภาระให้กับประชาชน โดยเชื่อว่าน่าจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายใน1-2 เดือนนี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- MAJOR (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เพิ่มเป้าเป็น 26.60 บาท ผลประกอบการใน 2Q56 ดีกว่าคาด ทำสถิติกำไรปกติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และถือเป็นกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์หากไม่นับช่วง 2Q50 ที่บริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ โดยมีกำไรอยู่ที่ 440 ล้านบาท เติบโต 92% YoY และ 46% QoQ เนื่องจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง "พี่มากพระโขนง" และภาพยนตร์ต่างประเทศอีกหลายเรื่องทำให้บริษัทมีรายได้จากการขายตั๋วหนังเติบโตกว่า 67% YoY และ 75% QoQ
- PS (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 33.20 บาท ประกาศกำไรสุทธิใน 2Q56 ออกมาที่ 1.4 พันล้านบาทดีกว่าคาด โดยเติบโตถึง 82%QoQ และ 41%YoY จากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น 44%QoQ และ 33% YoY ส่งผลให้โดยรวมกำไรสุทธิใน 1H56 ออกมาที่ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น 33% YoY ทั้งนี้หลังจากที่ใน 2Q56 บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ 2 แห่ง ส่งผลให้บริษัทมีงานในมือในปัจจุบันราว 4.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2558 ขณะที่ในครึ่งปีหลังคาดว่าจะได้เห็นการโอนสินค้าคอนโดมีเนียม เช่น โครงการ The Seed Mingle ,Urbano Absolute และ Fuse Mobius
- INTUCH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 104 บาท จะรายงานผลประกอบการ 2Q56 วันนี้ ดังนั้น หลัง ADVANC ประกาศจ่ายเงินปันผล 1H56 หุ้นละ 6.40 บาท คาด INTUCH จะประกาศจ่ายเงินปันผล 1H56 หุ้นละ 2.30 - 2.40 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.6-2.7% ขณะที่ทิศทางกำไร 2H56 คาดว่าจะดีขึ้นจาก 1H56 จากธุรกิจดาวเทียมผ่าน THCOM ที่จะเริ่มรับรู้รายได้จากจีนใน 3Q56 เป็นไตรมาสแรก และธุรกิจมือถือผ่าน ADVANC จะเริ่มเห็นผลประโยชน์จากการโอนย้ายฐานลูกค้าจาก 2G มายัง 3G เพิ่มขึ้น รวมทั้งให้เงินปันผลในเกณฑ์ดี