“การเติบโตของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ลูกค้าต่างประเทศและลูกค้าโครงการ ในช่วงครึ่งปีแรกนับว่ามีอัตราการเติบโตที่สูง โดยเติบโตเป็นเลข 2 หลัก เนื่องจากยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องในการสร้างความหลากหลายของสินค้าและบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ในแบรนด์เดียว และยิ่งครึ่งปีหลัง คือไตรมาสที่ 3 และ 4 ที่อิฐมวลเบาเข้าสู่ตลาดเต็มที่ จะเป็นแรงหนุนสำคัญที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา" นายอัศนี กล่าว
ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มองว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตลาดในต่างจังหวัด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนขยายสาขาห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ และการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งแนวราบและแนวสูงของผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามหัวเมืองใหญ่ ส่งผลให้มีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ DRT มองว่า การรุกตลาดอิฐมวลเบาของตราเพชรในครั้งนี้ เป็นจังหวะดีที่เข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อรุกกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวสูงได้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่สินค้าตราเพชรจะอยู่ในกลุ่มสินค้าแนวราบเป็นหลัก โดยบริษัทฯ ประเมินว่าสายการผลิตอิฐมวลเบาทั้ง 2 โรงงาน จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 60 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญที่ส่งผลต่อผลการดำเนินไตรมาส 3 และภาพรวมในครึ่งปีหลังให้สามารถเติบโต ส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตได้ 10% ตามเป้าที่วางไว้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/56 บริษัทฯ มีรายได้ 1,116.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.39% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำรายได้ 1,011.41 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 138.20 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโรงงานอิฐมวลเบา
ส่วนครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีรายได้ 2,272.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ทำรายได้ 2,062.78 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 293.15 ล้านบาท ลดลง 12.34% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 334.43 ล้านบาท เนื่องจากในปีก่อนมีกำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งานจำนวน 43.97 ล้านบาท หากไม่นับรวมแล้ว กำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติในงวดหกเดือนปี 56 สูงขึ้นกว่างวดเดียวของปีก่อนเล็กน้อย