ขณะเดียวกัน ยังมีแผนเร่งขยายตลาดผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวไปยังในประเทศกลุ่ม AEC ควบคู่กับการสร้างโรงงานขนมขบเคี้ยวแห่งใหม่ที่โรงงานที่มหาชัย เพื่อผลิตขนมขบเคี้ยวที่ได้รับมาตรฐานฮาลาลเพื่อการส่งออกไปยังตลาดชาวมุสลิมในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลดีต่อตัวเลขยอดขายและกำไรจากการทำตลาดอาหารขบเคี้ยวเพิ่มขึ้น
"จากแผนงานดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัทฯ โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนหลัง ได้อย่างแข็งแกร่ง และเป็นแรงหนุนผลักดันผลประกอบการในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้"นายเจริญ กล่าว
นายเจริญ กล่าวว่า ในปี 56 นี้พัฒนาการที่เห็นได้ชัดเจนขึ้นของบริษัทฯ นอกจากการออกสินค้าใหม่ๆ แล้ว เรื่องของตราสินค้า ส.ขอนแก่น ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ก็ปรากฏชัดว่ามีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นได้จากการที่บริษัทฯ ได้รับการติดต่อเพื่อเข้าเยี่ยมชมกิจการจากนักลงทุนและสถาบันการเงินต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทฯ เองก็ได้จัดโรดโชว์ไปพบปะกับผู้ลงทุนและผู้ที่จะร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทฯ ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในครึ่งปีแรกของปี 56 บริษัทฯ มีรายได้รวม 958 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่บริษัทฯ มีรายได้รวม 894 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 45.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่บริษัทฯ ทำกำไรสุทธิ 40.6 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2/56 บริษัทฯ ก็มีอัตราการเติบโตของยอดขายในเกือบทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยมีรายได้รวม 496 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 455 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 19.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่ก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 18.1 ล้านบาท
“สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกและไตรมาส 2 ยังเติบโตได้ดีทั้งยอดขายและกำไร ซึ่งมาจากการหันมาผลิตสินค้าอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ ส.ขอนแก่น มากขึ้นรวมถึงการพัฒนาสินค้าใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป และร้านอาหารบริการด่วนแซ่บ เอ็กซ์เพรส แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ จะประสบปัญหาภาวะต้นทุนด้านค่าแรงงานและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 แต่เราก็สามารถบริหารจัดการเพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยลบดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายเจริญ กล่าว