นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PS กล่าวว่า บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารในช่วงไตรมาส 3/56 เพื่อทบทวนเป้ารายได้และยอดขายที่ชัดเจน หลังจากผลงานช่วงครึ่งปีแรกทำได้ดีกว่าคาดทั้งรายได้และยอดขาย อีกทั้งส่วนแบ่งการตลาดก็เพิ่มขึ้นจาก 9% ในปีที่แล้วมาอยู่ที่ 13% ขณะที่ปีนี้คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะรักษาไว้ที่ 14-15% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 14%
ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)เพิ่มมาที่ 4.27 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ไปถึงปี 59
ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 45 โครงการ มูลค่ารวม 2.3 หมื่นล้านบาท จากครึ่งปีแรกเปิดตัวไปแล้ว 33 โครงการ มูลค่ารวม 3.3 หมื่นล้านบาท โดยโครงการที่จะเปิดใหม่ในช่วงต่อจากนี้จะเป็นทาวน์เฮ้าส์ 22 โครงการ บ้านเดี่ยว 14 โครงการ และคอนโดมินียม 7 โครงการ รวมทั้งโครงการในต่างประเทศอีก 2 โครงการ
บริษัทมีแผนทยอยปรับราคาขายโครงการเพิ่มขึ้นราว 4% โดยครึ่งปีแรกปรับไปแล้ว 2% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าแรง วัสดุก่อสร้าง และราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยบริษัทตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินราว 1.5 หมื่นล้านบาท ซื้อที่ดิน 72 แปลง โดยครึ่งปีแรกใช้งบไปแล้ว 9 พันล้านบาท ซื้อที่ดิน 42 แปลง
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนขยายการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ โดยขณะนี้ได้ศึกษาการซื้อที่ดินในเมืองบังกาลอร์ประเทศอินเดียอีก 2 แปลง และบริเวณปริมณฑลของกรุงจาการ์ต้าของอินโดนีเซียอีก 2 แปลง ซึ่งจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการแนวราบและแนวสูง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 57
นายทองมา กล่าวว่า บริษัทไม่มีความกังวลภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่าจะชะลอลง เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะเติบโตราว 7-10% ครึ่งปีแรกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพและปริมณฑลเติบโตไปแล้ว 18% ประกอบกับโครงการคอนโดมิเนียมยังได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากที่ตั้งมีความสะดวกสบายในการเดินทาง และค่าครองชีพของประชาชนเพียงพอที่จะซื้อหา
สำหรับปัจจัยการเมือง มองว่าจะมีผลกระทบในช่วงสั้นๆ แต่ปัจจุบันสถานการณ์การเมืองกลับมามีบรรยากาศที่ดีขึ้น ทำให้ความกังวลลดลง และเชื่อว่าอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จะมียอดขายที่ดีขึ้นในไตรมาสที่ 4/56