(เพิ่มเติม) PF ปรับเป้าปี 56 รายได้ลดเหลือ 1.4 หมื่นลบ.จาก 1.5 หมื่นลบ.ตามยอดขาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 13, 2013 14:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค(PF) ปรับเป้ารายได้ในปีนี้ลงเหลือ 1.4 หมื่นล้านบาท จากที่เคยตั้งไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท ตามยอดขายที่คาดว่าจะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยขณะนี้บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog)แล้ว 8.4 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ฯภายในปีนี้ประมาณ 3.1 พันล้านบาท ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่าประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท

สำหรับธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในญี่ปุ่นนั้น ในปีนี้บริษัทยังต้องรับรู้ผลขาดทุน ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังจะรับรู้ฯอีก 20-30 ล้านบาท แต่เชื่อว่าในปีหน้าจะพลิกเป็นกำไร หลังจากมีเชนโรงแรมเข้ามาบริหารงาน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้

นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุนสายงานลงทุนสัมพันธ์ PF กล่าวว่า ในช่วงต้นปีบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้และยอดขายแบบ Aggressive แต่เมื่อดำเนินการมาแล้ว ประกอบกับดูสถานการณ์ตลาดจริง เห็นว่าควรปรับปรุงให้เหมาะสม จึงปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือ 1.4 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมปรับลดเป้ายอดขายเหลือ 1.7 หมื่นล้านบาทจากเดิมตั้งไว้ 1.9 หมื่นล้านบาท

"ตอนต้นปีเศรษฐกิจยังไม่ชะลอ ยังไม่มีเรื่องการเมือง"นายธีรธัชช์ กล่าว

อนึ่ง PF แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/56 มีกำไรสุทธิ 2.97 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.00052 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 53.02 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01118 บาท

นายธีรธัชช์ กล่าวว่า กำไรช่วงไตรมาส 2/56 ที่ปรับลดลง เนื่องจากบริษัทรับรู้ผลขาดทุนของธุรกิจโรงแรมที่เข้าไปลงทุนในญี่ปุ่น ซึ่งไตรมาส 2 ไม่ใช่ช่วงพีคของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น และคาดว่ายังจะมีผลขาดทุนในช่วงครึ่งปีหลังอีก 20-30 ล้านบาท แต่ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาให้เชนโรงแรมที่มีชื่อเสียงเข้าไปร่วมบริหารโรงแรมดังกล่าว คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาและจะพลิกเป็นกำไรในปี 57

"เดิมตั้งเป้าว่าโรงแรมในญี่ปุ่นจะ Break Event ในปีนี้ แต่ตอนนี้ยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ขาดทุนลดลง และปี 57 มีแผนเอาเชนเข้ามาร่วมบริหาร เชื่อว่าจะเป็นกำไรในปี 57"นายธีรธัชช์ กล่าว

ส่วนผลการดำเนินงานรวมของบริษัทในปีนี้ เชื่อว่าในครึ่งหลังของปีทั้งรายได้และยอดขายจะมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน (สิ้น มิ.ย.56) บริษัทมี Backlog 8,400 ล้านบาท โดยจะรับรู้ฯภายในปีนี้อีก 3,100 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 980 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2,230 ล้านบาท ขณะที่บริษัทจะเปิดโครงการใหม่อีก 12 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่ารวม 1.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 6 โครงการ และโครงการแนวสูง 6 โครงการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ