สำหรับผลการดำเนินประจำไตรมาส 2/56 บริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 13,800.78ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,053.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 28% โดยบริษัทฯ มีกำไรก่อนหักภาษี (EBT) 165.84 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 40.13 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 32% ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ132.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 39.33 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 42%
ขณะที่ งวด 6 เดือน บริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 25, 678.56 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5,305.27 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 26% โดยบริษัทฯ มีกำไรก่อนหักภาษี (EBT) 324.55 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน14.30ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 5% ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 257.07 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน23.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 10%
นายพิทักษ์ กล่าวว่า จากการที่บริษัทฯ มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องมาจากบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ประกอบกับการเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันทั้งสถานีบริการน้ำมันที่บริษัทบริหารเอง (สถานีบริการน้ำมัน COCO) จำนวน 65 สาขา และสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของบริษัท (สถานีบริการน้ำมัน DODO) จำนวน 6 สาขา ทำให้ในไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มสถานีบริการน้ำมันรวม 71 สาขา เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2555 ส่งผลให้มีการจำหน่ายน้ำมันในปริมาณที่มากขึ้น โดยในขณะนี้บริษัทฯ ได้ขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2556 รวมทั้งสิ้น 645 สาขาทั่วประเทศแล้ว
“การขยายสาขาส่งผลให้การจำหน่ายน้ำมันมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯ มีการขายน้ำมันอยู่ที่ 77 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งคาดว่ายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต เนื่องจากการปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีบริการน้ำมันที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านสะดวกซื้อ“แมกซ์มาร์ท" ร้านกาแฟพันธุ์ไทย และคลับการ์ดสะสมแต้มอย่าง “แมกซ์การ์ด" สำหรับแลกของสมนาคุณ ซึ่งถือเป็นส่วนเสริมที่ทำให้ลูกค้าเข้าใช้บริการเพิ่มมากขึ้น" นายพิทักษ์ กล่าว