นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการบริหาร DELTA กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเยอรมัน มูลค่า 12 ล้านยูโร จากเดิมที่เช่าพื้นที่ในนิคมฯ เพื่อตั้งโรงงานเป็นของตัวเอง และบางส่วนแบ่งให้รายอื่นเช่า ทั้งนี้ โรงงานที่เยอรมัน ใช้เป็นฐานผลิตวินด์เทอร์ไบน์ โดยบริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแหล่งเงินทุนโดยเลือกระหว่างกระแสเงินสดที่มีอยู่ 1 หมื่นล้านบาท หรือเป็นเงินกู้ ซึ่งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ
บริษัทมั่นใจว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะทำได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หลังครึ่งปีแรกทำกำไรสุทธิได้ 2,677 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,612 ล้านบาท และคาดแนวโน้มกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่อง จากขายสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูง และการขยายตลาดใหม่
สำหรับสินค้าใหม่"วินด์เทอร์ไบน์"ที่มีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูงกว่าสินค้าทั่วไป ปัจจุบัน มีออเดอร์แล้ว 10 ตัวขึ้นไป โดยจะติดตั้งตัวแรกในไตรมาส 3/56 ที่อินเดีย คาดรับรู้รายได้ในปลายไตรมาส 3/56 หรือต้นไตรมาส 4/56 และที่เหลือรอเซ็นสัญญา และจะนำสินค้าดังกล่าวเจาะตลาดอาเซียนและออสเตรเลียต่อไป พร้อมกันนั้น ปีนี้บริษัทมีนโยบายขยายตลาดใหม่ในอาฟริกา และจะนำสินค้าใหม่เข้าไปจำหน่ายด้วย
"ยอดขายสินค้าหลักของเรายังเป็น telecom power, solar cell แต่ยอดขายก็เริ่มตกลง หลังจากที่เข้าสู่ตลาดได้ระดับหนึ่ง เราก็จะไปเน้นสินค้า high margin ทดแทน" นายอนุสรณ์ กล่าว
บริษัทเชื่อว่าครึ่งปีหลังยอดขายจะดีกว่าครึ่งปีแรกที่มียอดขาย 19,205 ล้านบาท โดยเฉพาะจากสินค้าใหม่ ส่วนงบลงทุนรวมทั้งปีนี้ตั้งไว้ที่ 500-800 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ แต่คงยังไม่เห็นการซื้อกิจการเพิ่มอีกในปีนี้ แต่จะเป็นการเพิ่มขยายกำลังการผลิตที่สโลวาเกียในเฟสต่อไป เพื่อเป็นฐานการผลิตและนำเข้าในแถบอาฟริกาและยุโรปได้ง่าย
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในปี 57 บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิสูงกว่าปีนี้ ที่เน้นกลุยุทธ์ที่ขยายสินค้าใหม่และตลาดใหม่ซึ่งมองว่ายังมีช่องทางอีกมาก ส่วนเศรษฐกิจโลกไม่มีผลกระทบต่อการขายสินค้าของบริษัท นอกจากนี้บริษัทให้ความสำคัญรายได้น้อยลงแต่เน้นการทำกำไรมากขึ้น