อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะมีธุรกิจที่จะเอื้ออำนวยต่อการเติบโตของประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของโลจิสติกส์ เพราะปัจจุบันต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของไทยอยู่ที่ประมาณ 15% ของ GDP ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับในประเทศที่เจริญแล้วซึ่งอยู่ไม่เกิน 10% ทั้งนี้ ในปี 56 บริษัทฯ ยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ระดับ 2 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 43% จากปีก่อนที่ทำได้ 1.48 พันล้านบาท
ส่วนผลประกอบการงวดไตรมาส 2/56 บริษัทฯมีรายได้รวม 387.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 364.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.41 ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 15.25 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่บริษัทฯมีกำไร 15.49 ล้านบาท
“ทั้งนี้ บริษัทฯขอชี้แจงว่าในไตรมาส 2/56 มีกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 5 เท่า เนื่องจากหากพิจารณาจากงบกำไรที่แท้จริงในไตรมาส 2/55 บริษัทฯมีกำไรเพียง 3 ล้านบาทเท่านั้น แต่ได้รับเงินชดเชยจากรายการพิเศษกรณีน้ำท่วมจากบริษัทประกันภัย เข้ามากว่า 12 ล้านบาท และจากการจำหน่ายหุ้นลูกค้าอีกกว่า 7 ล้านบาท"นายชำนาญ กล่าว
สำหรับผลประกอบงวด 6 เดือนของปีนี้บริษัทฯมีรายได้รวมที่ 792.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 714.36 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.99 ขณะที่กำไรสุทธิงวดหกเดือนปี 2556 อยู่ที่ 42.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่มีกำไรสุทธิ 30.77 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.7
สาเหตุที่บริษัทฯมีอัตราผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการปรับแผนกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทฯสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยรวมของบริษัทฯได้ นอกจากนี้บริษัทฯยังมีการขยายพื้นที่ในการจำหน่าย โดยผ่านตัวแทนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯอัตราการขยายตัวของผลการดำเนินงานอย่างเด่นชัดในไตรมาสนี้