BWG คาดผลงาน H2/56 โตโดดเด่น หลังเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ RDF

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 14, 2013 15:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน(BWG) กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 56 ว่า บริษัทจะยิ่งสร้างผลงานได้โดดเด่นกว่าเดิม จากการเริ่มรับรู้รายได้โครงการพลังงานทดแทนจากกากอุตสาหกรรม (Refuse Derived Fuel Project - RDF) เพิ่มเติมจากธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ทำอยู่เดิม ตั้งแต่ไตรมาส 3/56 เป็นต้นไป โดยการคัดแยกและแปรรูปกากอุตสาหกรรมที่บริษัทฯ รับเข้ามากำจัด ไปเป็นเชื้อเพลิงแข็ง (RDF) จำหน่ายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีระบบใช้น้ำมัน / น้ำมันเตาในการผลิตสินค้า
"เชื่อว่าจะส่งผลต่อเนื่องให้ผลประกอบการในครึ่งหลังของปี 2556 เติบโตโดดเด่นในทิศทางเดียวกันด้วย โดยบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 20- 30 จากรายได้ 1,060 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา" นายสุวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 2/56 บริษัทฯ มีรายได้ในงบเฉพาะกิจการรวม 205.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.47 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.76 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/55 ที่มีรายได้รวม 162.39 ล้านบาท ส่งผลให้ในงวดไตรมาสที่ 2/2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงบเฉพาะกิจการจำนวน 40.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.59 ล้านบาท หรือร้อยละ 353.35 และในงวดสะสม 6 เดือนในงบเฉพาะกิจการบริษัทฯ มีรายได้รวม 389.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.4 ล้านบาทหรือร้อยละ 17.62 และมีกำไรสุทธิสำหรับงวดจำนวน 67.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.89 ล้านบาท หรือร้อยละ 142.82

ส่วนในงบรวมบริษัทฯย่อย บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการกำจัดกากอุตสาหกรรม สำหรับไตรมาส 2/56 จำนวน 326.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 75.48 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 30 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 251.41 ล้านบาท และมียอดสะสม 6 เดือน สิ้นสุดไตรมาส 2 /2556 จำนวน 616.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 102.01 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดดียวกันในปี 55 ที่ทำได้ 514.01 ล้านบาท ส่งผลให้ในงวดไตรมาส 2/56 ในงบรวมบริษัทย่อย BWG มีกำไรสุทธิจำนวน 39.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น19.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 102.26 จากงวดเดียวกันของปี 55 ที่ทำได้ 19.46 ล้านบาท ส่วนงวดสะสม 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 74.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.28 ล้านบาท หรือร้อยละ 80.60 เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้ 41.29 ล้านบาท

สำหรับการเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นของรายได้และกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 2/56 เนื่องจากมีปริมาณกากอุตสาหกรรมที่รับกำจัดเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันและราคาค่าบริการต่อตันเฉลี่ยมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ30 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยอาศัยกลยุทธ์ทางด้านการตลาด ความพร้อมในการให้บริการ และความเข้มงวดมากขึ้นในการกำกับดูแลของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดกากอุตสาหกรรม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ