CPF คิดค้นอาหารกุ้งจากโปรตีนพืชทดแทนปลาป่น ช่วยลดต้นทุน-หนุนทำประมงยั่งยืน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 15, 2013 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นาย Robins P. Mcintosh Jr. รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า ล่าสุด บริษัทได้คิดค้นเทคโนโลยีการผลิตอาหารกุ้งที่ใช้ “โปรตีนจากถั่วเหลืองและธัญพืช" มาทดแทนปลาป่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจากการทดสอบการใช้อาหารกุ้งที่ปราศจากปลาป่น พบว่า อัตราการเติบโตของกุ้งอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งขณะนี้มีการผลิตอาหารสัตว์ที่ใช้โปรตีนจากพืชดังกล่าวตามคำสั่งซื้อของลูกค้าบางส่วนแล้ว (Made to order)

“การสรรหาวัตถุดิบอื่นมาทดแทนปลาป่นนี้จะส่งผลให้เกิดการลดใช้ปริมาณปลาป่นจากการจับปลาของเรืออวนลากที่ผิดกฏหมายได้ นอกเหนือจากที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้สร้างแรงจูงใจโดยให้ราคาพรีเมี่ยม 3 บาทต่อกิโลกรัมแก่โรงงานปลาป่นที่ใช้วัตถุดิบปลาจากแหล่งที่มาที่ถูกต้อง มีเอกสารหลักฐานรับรอง และผ่านการตรวจสอบของกรมประมง ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี"นาย Mcintosh กล่าว

ทั้งนี้ การสรรหาวัตถุดิบทดแทนปลาป่นและการให้ราคาพรีเมี่ยมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางสนับสนุนการทำประมงอย่างยั่งยืนของ CPF ที่มีแผนดำเนินการอยู่หลายด้าน อาทิ การเร่งผลักดันการใช้ปลาป่นที่มาจากผลพลอยได้จากการแปรรูปทูน่าและซูริมิให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพในการผลิตอาหารกุ้ง ซึ่งผลพลอยได้นั้น เป็นวัตถุดิบที่มีเอกสารรับรองแหล่งที่มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันโรงงานอาหารสัตว์น้ำทั้ง 4 แห่งของ CPF จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน Best Aquaculture Practices (BAP)และ Aquaculture Certification Council (ACC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ในการรับรองแหล่งที่มาของปลาป่นอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน รวมถึง การคัดเลือกผู้ผลิตปลาป่นที่มีใบอนุญาตถูกต้อง สามารถตรวจสอบย้อนกลับตามมาตรฐานกรมประมง และยึดถือแนวทางประมงอย่างยั่งยืน ตามหลักการใหม่ของกรมประมง ซึ่งจะมีการประกาศใช้ในปี 57 ครอบคลุมถึงเรื่องการไม่ลุกล้ำพื้นที่เขตอนุรักษ์สัตว์น้ำและขยายขนาดตาอวน เป็นต้น

ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า ธุรกิจอาหารสัตว์ไทยมีโอกาสพบเจอปัญหาการกีดกันทางการค้าได้เสมอ โดยเฉพาะส่วนที่ไปเกี่ยวโยงกับสิ่งแวดล้อม มนุษย์ สัตว์ พืช ซึ่งภาคเอกชนเองก็ต้องเตรียมความพร้อมที่จะรับมือ โดยการร่วมมือกับภาครัฐในการจัดการปัญหาต่างๆ อาทิ ต้องลดผลกระทบประเด็นความยั่งยืนโดยร่วมจัดการปัญหาเรื่องแรงงานในอุตสาหกรรมทีเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงการลดต้นทุนการผลิตของธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการกีดกันทางการค้าที่จะมีรูปแบบใหม่ๆเข้ามาอีก

“วันนี้ต้องยกกรณีของปลาป่นเป็นตัวอย่างที่ทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่การผลิตเข้ามาร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนเอ็นจีโอ เพื่อลดผลกระทบในระยะยาว ถ้าเราลดใช้ปลาป่นจากเรืออวนลากจนเหลือ 0% ได้ก็เป็นเรื่องที่ดี จะทำให้ไม่มีการจับปลาพลอยได้ ซึ่งเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมด้วย ชาวประมงพื้นบ้านก็จะไม่ได้รับผลกระทบ ภาคธุรกิจเองก็ได้ลดต้นทุน และลดการกีดกันทางค้าจากต่างประเทศ เรียกว่า Win-Win ด้วยกันทุกฝ่าย" นายพรศิลป์กล่าว

การนำร่องของซีพีเอฟที่ให้ราคาพรีเมี่ยมแก่ปลาป่นที่ได้มาอย่างถูกต้องนั้น เป็นแนวทางสร้างแรงจูงใจที่ได้ผล ทำให้สมาชิกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ซึ่งประกอบด้วยบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์รายอื่นๆ เริ่มเห็นด้วยและทยอยเดินตามแนวทางนี้เช่นกัน โดยคาดว่าสมาชิกทุกรายจะพร้อมสนับสนุนการทำประมงยั่งยืนได้ภายใน 2 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ