สำหรับงานที่มีโครงการจะเปิดประมูลอย่างต่อเนื่องในช่วง Q3-Q4 มีมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น กฟภ.วงเงิน 500 ล้านบาท กฟผ.200 ล้านบาท และกฟน.2,100 ล้านบาท และในส่วนของภาคเอกชนภายในประเทศอีก 2,000 ล้านบาท และส่งออกประมาณ 500 ล้านบาท และงานประมูลของบริษัทย่อย 700 ล้านบาท บริษัทฯคาดว่าจะสามารถชนะการประมูลงานได้มากกว่า 20-25%
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) จะยังคงรักษาระดับให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 20-25 % ควบคู่กับการรักษาสัดส่วนตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมาตรการในด้านอื่นๆ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ตามแผนธุรกิจของบริษัท
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/56 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 755.94 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 31.94 ล้านบาท และผลประกอบการครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 1,217.91 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิรวม 68.12 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.22 บาท ในการนี้เพื่อเป็นการตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.11 บาทต่อหุ้น เป็นเงินรวม 33,867,698.70 บาท
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเป้าหมายการเติบโตตามแผนธุรกิจของบริษัท ซึ่งตั้งเป้ารายได้รวมที่ระดับ 5,000 ล้านบาทภายในปี 60 คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 2 (TRT-W2) แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน 6 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาการใช้สิทธิ 5.50 บาทต่อหุ้น อายุ 2 ปี ซึ่งจะได้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติต่อไป