ในปีนี้บริษัทคงเป้ากำไรและรายได้เติบโต 10% แม้ครึ่งปีแรกกำไรปกติเติบโตไปแล้วราว 70%
นายชาญกิจ เดชวิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ TMILL เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการเจรจากับพันธมิตรจากญี่ปุ่นและเกาหลีเพื่อทำการศึกษาในการร่วมทุนในการแตกไลน์ธุรกิจผลิตสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจในการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของบริษัท โดยแผนการแตกไลน์ธุรกิจเป็นแผนในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
“เรามีแผนในการแตกไลน์การผลิตที่สร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าของเราโดยเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป แต่ธุรกิจที่แตกออกไปจะไม่ทับซ้อนกับคู่ค้าของเราปัจจุบัน ซึ่งเป็นแผนที่วางไว้ภายใน 3-5 ปี ตอนนี้ก็มีพันธมิตรจากญี่ปุ่นและเกาหลีเข้ามาเจรจาร่วมทุนกับเรา ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาร่วมกัน การที่ร่วมทุนเราต้องการนวัตกรรมและความรู้เข้ามาส่งเสริมให้ธุรกิจเรา ซึ่งการบริหารจัดการและการตลาดเรามีสามารถอยู่แล้ว ก็มองว่าเป็นโอกาสที่ดีในอนาคตที่จะทำให้บริษัทเติบโตไปอีกระดับหนึ่ง"นายชาญกิจ กล่าว
ขณะที่รายได้และกำไรในสุทธิในปีนี้ยังคงการเติบโตไว้ที่ 10% จากปีก่อน หลังจากครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 70% หรืออยู่ที่ 34 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 20 ล้านบาท แต่ปี 55 มีกำไรพิเศษจากการเงินชดเชยประกันภัยเหตุเพลิงไหม้โรงเก็บข้าวสาลีจำนวน 33 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิครึ่งแรกของปีก่อนมากกว่าปีนี้ โดยอยู่ที่ 53 ล้านบาท
“กำไรหลังจากนี้ถ้านับเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานมีแนวโน้มมากกว่าปีก่อน ที่กำไรปีที่แล้วมากกว่าปีก่อนเพราะว่ามีกำไรพิเศษจากการเคลมประกัน และแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังก็ยังมีการเติบโตตามตลาดแป้งสาลีอยู่โดยจะดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 ตามลำดับ หลังจากไตรมาส 2 เป็นช่วง Low Season และตลาดแป้งสาลีปีนี้คาดว่าเติบโต 10% แต่ก็ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจที่ชะลอก็ไม่กระทบกับธุรกิจมากเพราะเป็นสินค้าวัตถุดิบที่ยังจำเป็นต้องใช้"นายชาญกิจ กล่าว
สำหรับการขยายกำลังการผลิตเพิ่มในของบริษัท โดยโรงงานผลิตแป้งสาลีในเฟส 2 จะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงไตรมาส 3/57 ซี่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างและสั่งซื้อเครื่องจักร โดยเงินลงทุนอยู่ในงบลงทุนในปีนี้จำนวน 550 ล้านบาท ปัจจุบันกำลังการผลิตโรงงานในเฟส 1 ใช้ไปแล้ว 95%