(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มเช้านี้ผันผวนแกว่งตัวลงในกรอบแคบตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย

สำหรับปัจจัยภายในประเทศที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ เป็นเรื่องการเมืองที่คาดว่าจะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เนื่องจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาของ ส.ว.

ส่วนตลาดภูมิภาคช่วงเช้านี้ปรับตัวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่

พร้อมให้กรอบแนวรับวันนี้ที่ 1,430 จุด และ แนวรับ 1,450 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(16 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,081.47 จุด ลดลง 30.72 จุด(-0.20%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,655.83 จุด ลดลง 5.49 จุด(-0.33%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,602.78 จุด ลดลง 3.34 จุด(-0.09%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 19.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.79 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.27 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 13.74 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 1.70 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(16 ส.ค.) ที่ 1,445.76 จุด ลดลง 7.31 จุด (-0.50%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 940.04 ล้านบาท เมื่อ 16 ส.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(16 ส.ค.)ที่ 107.46 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.13 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(16 ส.ค.)ที่ 6.2 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.28/30 อ่อนค่าตามภูมิภาค
• ค่ายรถเร่งเคลียร์สต็อกเก่า ดึงลูกค้าใหม่เข้าโชว์รูมหลังหายไปกว่า 30% เชื่อครึ่งปีหลัง ยอดขายปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่วางใจปัจจัยลบ "ราคาสินค้าเกษตรการเมือง-เศรษฐกิจ" ขณะที่รถมือสองแข่งดุ ไม่สนลูกค้าติด "แบล็คลิสต์" ด้านคลังแจงส่งมอบรถคันแรกแล้ว 1 ล้านราย ยอดคืนภาษี 2.2 หมื่นล้าน เผย โตโยต้า ได้สิทธิสูงสุด 3 แสนคัน ขณะที่ "สรรพสามิต" เร่งเจรจาไฟแนนซ์ผ่อนปรนลูกค้าลดปัญหายึดรถ
• "พาณิชย์"งัดมาตรการคุมราคาสินค้าหวังลดค่าครองชีพ รับมือครึ่งปีหลังแนวโน้มสินค้าจ่อปรับราคาหลังแบกต้นทุนค่าแรง-วัตถุดิบ-พลังงาน ขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคายาวถึงสิ้นปี เตือนกรณีราคาสินค้าปรับสูงเล็งประกาศเป็นสินค้าควบคุม ย้ำแนวทางไม่บิดเบือนกลไกตลาด ดัน "ร้านถูกใจ-โชห่วยโชว์สวย-ธงฟ้า" ช่วยประชาชน ด้านสหพัฒน์ ขานรับไม่ปรับราคา
• อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่ากรมได้ทำการวิเคราะห์สินค้าส่งออกไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย.)ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าที่เติบโตสูงและต่อเนื่องหรือขยายตัวมากกว่า 5% มีประมาณ 30.4% ของรายการสินค้าส่งออกทั้งหมด กลุ่มสินค้าที่เติบโตปานกลางโดยขยายตัว 0-5% มีปริมาณ 24.5% และกลุ่มที่ทรงตัวและทรุดตัว โดยไม่มีการขยายตัวหรือขยายตัวติดลบ มีประมาณ 25.5% ซึ่งกรมได้ดำเนินการปรับแผนการทำงาน และจัดกิจกรรมในการผลักดันการส่งออกเป็นรายสินค้าและมุ่งเป็นรายประเทศ เพื่อเพิ่มยอดการส่งออก
• ดัชนีหนึ่งในการใช้วัดสภาพเศรษฐกิจว่าดีมากน้อยแค่ไหน คือ ตัวเลขการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อต่างๆเพราะงบโฆษณาจะเป็นงบที่โดนตัดในอันดับแรกเมื่อเกิดวิกฤต ซึ่งผลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นแล้วจากภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาครึ่งปีแรกโตเพียง 1.3% ต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ภาพรวมจะโตกว่า 10%
• สมาคมตราสารหนี้ไทย เผยรัฐบาลลาวมีแผนออกพันธบัตรในไทยรอบ 2 มูลค่า 3 พันล้านบาทปีนี้ ระดมทุนวางโครงสร้างพื้นฐาน หลังจากล็อตแรกมีนักลงทุนจองซื้อเกินถึง 2 เท่า เตรียมจีบรัฐบาลกัมพูชาพม่า มาระดมทุนในไทย
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยหากดูจากระดับหนี้ภาคครัวเรือนของไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และแผนการก่อหนี้ในอนาคตของประเทศ ทำให้มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะเผชิญกับภาวะชะลอตัว หากแกนหลักทางเศรษฐกิจของโลกอย่างสหรัฐฟื้นตัวและเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นเนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐจะเป็นแรงกดดันให้ต้นทุนการเงินของไทยสูงขึ้น คนจะมีภาระหนี้เพิ่ม และส่งผลต่อการใช้จ่ายในประเทศเป็นลูกโซ่ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ในระดับต่ำ

*หุ้นเด่นวันนี้

• THCOM (เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เพิ่มเป้าเป็น 38 บาท คาดบริษัทจะมีกำไรโดดเด่นใน 2H56 โดยเพิ่มขึ้น 22% จากกำไรปกติ 625 ล้านบาทใน 1H56 ให้น้ำหนัก 4Q56 จะมีกำไรดีสุด จากจะมีการรับรู้รายได้ขั้นต่ำ IPSTAR จีนราว 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งรายได้ดาวเทียมไทยคม 6 ราว 2-3 ล้านดอลลาร์ และรายได้บางส่วนจากการให้บริการ Broadband Beam และ DCP เข้ามา พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 56 ขึ้น 16% มาอยู่ที่ 1.39 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 698% YoY
• AP (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 9.40 บาท หลังประกาศกำไรสุทธิใน 1H56 ลดลง 24% YoY คาดจะเห็นแนวโน้ม 2H56 กลับมาฟื้นตัว โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 17 โครงการมูลค่ารวม 1.6 หมื่นล้านบาทหรือคิดเป็น 51% ของมูลค่าโครงการใหม่ทั้งปี 56 ขณะที่ 3Q56 ที่จะมีการโอนสินค้าโครงการคอนโดมีเนียม 2 แห่งต่อเนื่องราว 4 พันล้านบาท และใน 4Q56 จะได้เห็นการรับรู้รายได้เพิ่มในโครงการ Rhythm-พหล-อารี อีกราว 900 ล้านบาท
• กลุ่มรับเหมา(ฟินันเซีย ไซรัส)กำไรงวด 1H13 น่าประทับใจ เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าจากครึ่งแรกของปีก่อน โดยเฉพาะ CK กำไรเพิ่มขึ้นมากสุดจากงานก่อสร้างที่เพิ่มทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียวสัญญาที่ 1 สายสีน้ำเงินสัญญาที่ 2 และความคืบหน้าในโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี รองลงมาคือ ITD ทั้ง 2 บริษัทมี backlog กว่า 1 แสนล้านบาท และมีโอกาสรับงานขนาดใหญ่ในอนาคตได้อีกมาก หุ้นเด่นคือ CK (เป้า 36 บาท) ส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้าง แนะ SCC (เป้า 500 บาท), DCON (เป้า 15 บาท), PYLON (เป้า 7.50 บาท)
• TUF(เคทีบี)"ซื้อลงทุน"เป้า 88 บาท จากประเด็นได้รับผลดีจากการยกเว้นการเรียกเก็บอัตราอากร CVD กุ้งเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งเชื่อว่าผลประกอบการใน 2H56 จะฟื้นตัวจาก 1H56 จากราคากุ้งที่เริ่มทรงตัวและความผันผวนในราคาทูน่าเริ่มลดลงใน 3Q56 และมองผลการด้าเนินงานได้ผ่านจุดต้าสุดไปแล้ว