ทั้งนี้ CSS มีทุนจดทะเบียน 350 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนเรียกชำระแล้ว 250 ล้านบาท หุ้นสามัญจำนวน 500 ล้านหุ้น จะเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทต่อประชาชนทั่วไปและกลุ่มพนักงานรวมจำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 28.57 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท
นายสมพงษ์ กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกมีรายได้ราว 1.58 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(Blacklog)ราว 900 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจากธุรกิจจำหน่ายผลิตสายไฟและอุปกรณ์ราว 600 ล้านบาท และงานด้านโทรคมนาคมอีก 300 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด
ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทได้มีการยื่นประมูลงานติดตั้งสายไฟของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 700 ล้านบาท ซึ่งจะทราบผลภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ คาดว่าได้รับงาน 50% เนื่องจากมีผู้ยื่นซองประมูล 2 ราย และบริษัทเตรียมรับงานโทรคมนาคมเพิ่มจากงานติดตั้งเสาโครงข่ายของ Truemove-H และ Ericson ที่จะมีการวางข่ายจำนวนกว่า 1,000 ไซด์ มูลค่า 1 ล้านบาทต่อไซด์ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้ส่วนแบ่งงานจำนวน 50% คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้
“เรายังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้ยังจะสามารถทำได้ตามเป้า แม้ครึ่งปีแรกรายได้โตไปเพียง 17% ส่วนหนึ่งเพราะในครึ่งปีแรกมีวันหยุดยาวค่อนข้างมาก ทำให้ลูกค้าชะลอการรับของ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ แต่ในครึ่งปีหลังเราจะรับรู้รายได้มากขึ้น โดยเฉพาะงานด้านโทรคมนาคมที่จะรับรู้มากในช่วงไตรมาส 4/56 เนื่องจากค่ายมือถือเร่งการติดตั้งเสาให้เสร็จ ส่วนด้านขงานเทรดดิ้งฟิลลิปส์ได้เพิ่มพื้นที่การจัดจำหน่ายให้กับบริษัทเพิ่มอีก ทำให้รายได้จากงานเทรดดิ้งในปีนี้จะมากกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน และตอนนี้งานเราก็ล้นมือมากแทบจะทำไม่ทัน"นายสมพงษ์ กล่าว
ส่วนการรุกธุรกิจในพม่าบริษัทคาดว่าในช่วงไตรมาส 1/57 บริษัทจะเริ่มเข้าไปทำธุรกิจด้านเทรดดิ้งและงานรับติดตั้งเสาโครงข่ายโทรคมนาคม หลังจากในช่วงต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาบริษัทได้เดินทางไปเจรจากับพันธมิตร ได้แก่ Huawei และ Ericson เกี่ยวกับเรื่องราคา และข้อตกลงเกี่ยวกับการชำระเงิน โดย Huawei และ Ericson เป็นพาร์ทเนอร์ให้กับเทเลเนอร์ที่ได้รรับสัมปทานวางโครงข่ายในพม่า โดยเทเลนอร์ตั้งงบลงทุนภายใน 3 ปีอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน CSS กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปียังมีความไม่แน่นอนจากความกังวลเรื่องการลดมาตรการ QE และเรื่องเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องการเมืองที่ยังไม่นิ่ง และจะมีความเข้มข้นมากขึ้นในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่วนหุ้น IPO ยังเชื่อว่านักลงทุนยังให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนได้ดี
“สำหรับการตั้งราคาหุ้น IPO ของ CSS เราคำนึงถึงนักลงทุนเป็นหลัก โดย CSS เป็นบริษัทที่มีการเติบโตที่ดีถึง 40% ต่อปี และมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ประกอบกับแนวโน้มของโทรคมนาคมมีการเติบโตอย่างมาก ทำให้บริษัทมีการรับงานติดตั้งเสา 3G มากขึ้น ซึ่งให้มาร์จิ้นดี ส่วน CSS จะให้จองหุ้น IPO ในปลายเดือนสิงหาคมนี้ และจะคาดว่าจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หมวดพาณิชย์วันแรกภายในต้นเดือนกันยายน สำหรับช่วงราคา IPO จะประกาศออกมาภายในวันพฤหัสและวันศุกร์ที่จะถึงนี้"นายสมภพ กล่าว