สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB21DA, LB155A และ LB176A (รุ่นอายุ 8.3 ปี, 1.8 ปี และ 3.8 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6,249 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL174B) มูลค่า 289.9 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW17OA) มูลค่า 145.2 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (BH16DA) มูลค่า 61.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 496.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56.4% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,937 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 9,710 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 766 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.47% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.54% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับลดลงเล็กน้อยประมาณ 1 bp. ท่ามกลางปริมาณซื้อขายที่เบาบาง ในขณะที่วันนี้ตลาดหลักทรัพย์ปรับลดลงค่อนข้างมาก ภายหลังสภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP ไตรมาส 2/2556 โดยปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยทั้งปี 56 ลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4.2-5.2% เหลือ 3.8-4.3% ด้านนักลงทุนจับตาการประชุม กนง.วันพุธนี้ว่าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ หรือไม่ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 766 ล้านบาท