(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวลงต่อ เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว-กังวลเฟดลด QE

ประกอบกับความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจจะลดขนาดการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังมีแรงกดดันอยู่

ส่วนตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ ซึ่งมี 2 ตลาดที่สามารถปรับตัวอยู่ในแดนบวกได้คือ เกาหลี และใต้หวัน

พร้อมให้แนวรับที่ 1,375-1,380 จุด และแนวต้าน 1,415-1,420 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(19 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,010.74 จุด ลดลง 70.73 จุด(-0.47%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,646.06 จุด ลดลง 9.77 จุด(-0.59%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,589.09 จุด ลดลง 13.69 จุด(-0.38%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 125.17 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.63 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 67.41 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 3.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 7.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 14.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.51 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 9.40 จุด

ขณะที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการต่อในวันนี้ หลังมีฝนตกหนักและน้ำท่วมในกรุงมะนิลา

• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(19 ส.ค.) ที่ 1,398.48 จุด ลดลง 47.28 จุด(-3.27%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,639.33 ล้านบาท เมื่อ 19 ส.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(19 ส.ค.)ที่ 107.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.36 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(19 ส.ค.)ที่ 5.5 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 31.55/57 หลังผิดหวัง GDP Q2/56
• ธปท.เผยไตรมาส 2 ชะลอตามคาด ยัน'ไม่ถดถอย'จี้เร่งลงทุนภาครัฐ, สศช.เตือนการเมืองปัจจัยเสี่ยงซ้ำเติมเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง หวั่นกระทบเชื่อมั่น"ท่องเที่ยว-ลงทุน"พร้อมปรับประมาณการจีดีพีในปีนี้เหลือ 3.8-4.3% จากไตรมาส 2 โตแค่ 2.8% เศรษฐกิจแทบทุกด้านขยายตัวลดลง ด้าน ธปท.ระบุเป็นไปตามคาด ขณะ"กิตติรัตน์"เร่งดันลงทุนภาครัฐ หวังสิ้นปีโตได้ 6.5%
• กลุ่มโรงกลั่นงดส่งแอลพีจีขายกลุ่มปิโตรเคมี 2-5 หมื่นตันต่อเดือน จนกว่าปตท.จะซ่อมโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 5 เสร็จ หวังป้อนกลุ่มครัวเรือน-ขนส่งอุตสาหกรรมป้องกันขาดแคลน พลังงานสั่งนำเข้าล็อตแรกแล้ว 4 หมื่นตัน ขณะที่พีทีทีจีซียอมรับต้องลดกำลังการผลิต 10% ฉุดกำไรหายเดือนละ400 ล้านบาท "พงษ์ศักดิ์"เมินพบกลุ่มต่อต้านปรับราคาเข้าพบ 23 ส.ค.ข้องใจเรียกร้องเพื่อใคร สั่งพีทีทีจีซี หาหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกลุ่มสร้างสถานการณ์ปลาตายเหตุน้ำมันรั่ว
• บอร์ด กสท.เห็นชอบร่างหนังสือเชิญชวนประมูล"ทีวีดิจิทัล"ธุรกิจ 24 ช่อง เปิดขายซอง 10-12 ก.ย.นี้ พร้อมเคาะค่าบริการโครงข่าย คาดเริ่มประมูลเร็วสุดปลายเดือน พ.ย.นี้ กรณีช้าสุดเดือนม.ค.ปีหน้า เลื่อนจากกรอบเดิมเดือน ต.ค.นี้ คาด"ออนแอร์"ทีวีดิจิทัลธุรกิจและสาธารณะ 30 ช่อง เดือนมี.ค.นี้
• ส.นักวิเคราะห์จ่อหั่นเป้ารายได้และกำไร บจ.ปีนี้ลง พร้อมลดประมาณการดัชนีสิ้นปี หลังสภาพัฒน์ ลดเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโตต่ำ 4% ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ เปิดผลการดำเนินงาน บจ.งวดครึ่งแรกปี56 มีกำไรสุทธิ 409,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 17.74% ขณะไตรมาส2 มีกำไร 165,400 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 25.86%
• สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เผยช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.75 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายร่วม 8.68 หมื่นล้านบาทหรือ 5.2% โดยการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมสามารถจัดเก็บภาษีสูงกว่าเป้าหมาย 4.19 หมื่นล้านบาทหรือ 2.3%

*หุ้นเด่นวันนี้

• MODERN (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 14.30 บาท มองในสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงในระยะสั้นสูง เป็นทางเลือกที่ดีในการซื้อกระจายความเสี่ยง จุดเด่นเป็นหุ้น Net Cash แนวโน้มผลงานโดดเด่นด้วย ประเมินกำไรสุทธิปี 56 ไว้ที่ 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% YoY ครึ่งหลังของปี 56 จะโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรกที่มีสัดส่วนกำไรสุทธิ 37.5% ของทั้งปี คาดเงินปันผลทั้งปีที่ 0.60 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 6.0%
• MSC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 6.30 บาท คงเป้าการเติบโตของยอดขาย 8% และ Gross margin ที่ 14% ในปีนี้ ยังไม่เห็นสัญญาณชะลอคำสั่งซื้อของลูกค้า คาดยอดขายครึ่งปีหลังโตราว 15% จากครึ่งปีแรก และให้น้ำหนักผลประกอบการ 3Q56 จะมียอดขายและ Gross margin ดีสุดของปี เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิใน 3Q56 ที่ 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากใน 2Q56 และคาดกำไรสุทธิ 3 ปีข้างหน้ามีอัตราการเติบโตต่อปี 8% (CAGR 2556-2558) และมีผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี 7%
• CK(ทรีนีตี้)เตรียมเซ็นสัญญาวางระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงวงเงินราว 2 หมื่นล้านบาท เพียงรอให้ ครม.มีการอนุมัติในการจัดซื้อ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมเข้าไปดำเนินงานทันที จะทำให้ยอดงานในมือเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งในการทำประมาณการได้มีรวมมูลค่าการวางระบบสีม่วงนี้แล้ว พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 30.60 บาท
• CSL(ดีบีเอส)"ซื้อ"เป้า 14.75 บาท ท่ามกลางประมาณการกำไรที่ถูกปรับลดลง, กำไรสุทธิของ CSL จะยังเติบโตได้ถึง 22% ในปี 2556, แต่จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงอยู่ที่ประมาณ 2.9% ในปี 57 อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงจูงใจที่ 6% ในปี 56 และ 6.2% ในปี 57 โดยมีอัตราผลตอบแทนรวม 23%(โอกาสในการปรับตัวขึ้น 17% และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลราว 6%)