สำหรับผลประกอบการบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดประจำไตรมาส 2/2556 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 45.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 45.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20,795 ส่วนกำไรสุทธิสำหรับงวดหกเดือนแรกเท่ากับ 72.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 28.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.26
ขณะที่รายได้จากการรับจ้างสำหรับงวดไตรมาส 2/2556 อยู่ที่ 336.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 125.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 59.56 สำหรับงวดหกเดือนแรกเท่ากับ 601.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21.43 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.69 ส่วนต้นทุนจากการรับจ้างสำหรับงวดไตรมาส 2/2556 อยู่ที่ 262.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 192.28 ล้านบาท และสำหรับงวดหกเดือนแรกในปีนี้เท่ากับ 482.50 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 493.69 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมถึงค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร สำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนในปีนี้ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 10.75 ล้านบาท และ 11.03 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งสาเหตุหลักเป็นการลดลงในส่วนของการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของบริษัทย่อย
“ผลงาน Q2/56 ที่ออกมา PYLON มีกำไรเพิ่มขึ้น 20,795% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจอย่างมากเนื่องจากบริษัทฯ มีงานไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ประกอบกับการแข่งขันในตลาดค่อนข้างน้อย ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 59% และเมื่อเทียบกับผลงานในงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งลูกค้าหยุดออกโครงการ งานในตลาดจึงมีไม่มาก ทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคาที่สูง ส่งผลให้ในไตรมาส 2 ของปี 55 บริษัทฯ มีฐานกำไรค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม มองว่าในปีนี้เป็นปีทองของผู้ประกอบธุรกิจงานฐานรากเสาเข็มเจาะและงานก่อสร้าง ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมในการรับงานอย่างต่อเนื่องจากกำลังการผลิตที่มีเพิ่มขึ้น และเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต" นายบดินทร์ กล่าว