การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,379.27 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,353.02 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 113 หลักทรัพย์ ลดลง 683 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 84 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ โดยเฉพาะตลาดในกลุ่ม TIP ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงจากรับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ หลังจากที่ค่าเงินได้อ่อนค่าลง ทำให้ช่วงนี้จึงมีเงินไหลออกจาก
ทั้งนี้ เป็นผลจากไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ในกลุ่ม TIP มีผลขาดดุลบัญชีเดินสะพัด โดยอินโดนีเซียขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมา 2 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว ส่วนไทยเพิ่งขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2/56 ดังนั้น นักลงทุนต่างชาติเห็นว่าเศรษฐกิจอ่อนลงจึงขายออกไปก่อน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลผลกระทบจากการลดขนาด QE ของสหรัฐฯด้วย ซึ่งในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในเดือนกันยายน ต่างมองว่ามีโอกาสที่ลดขนาด QE สูงมาก
สำหรับปัจจัยการเมืองในประเทศยังเป็นเรื่องที่ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป และต้องรอดูว่าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทจะนำเข้าสู่สภาฯเพื่อพิจารณาได้เมื่อไร
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(21 ส.ค.)นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นหลังจากที่ได้ปรับตัวลงเร็ว และแรง เพียงแค่ 2 วันที่ผ่านมาก็ปรับตัวลงไปร่วม 80 จุดแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,380 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,188.41 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 3,373.25 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,037.47 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,988.21 ล้านบาท ปิดที่ 259.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,927.30 ล้านบาท ปิดที่ 319.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท