(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์แต่อยู่ในกรอบจำกัด เหตุยังมีปัจจัยรบกวนอยู่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 21, 2013 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ แต่ก็คงจะอยู่ในกรอบจำกัด ซึ่งเป็นโมเมนตัมต่อเนื่องจากวานนี้ อย่างไรก็ดี ช่วงสั้นตลาดฯคงจะไปได้ไม่ไกล เนื่องจากยังมีปัจจัยรบกวนอยู่ในแง่ของจิตวิทยา ทั้งเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลง

รวมถึงปัจจัยจากนอกประเทศในเรื่องของมาตรการ QE ที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯว่าจะมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน เพราะจะเป็นตัวกำหนดในเรื่องของ QE นอกจากนี้ควรจะติดตามสถานการณ์ในอียิปต์ด้วย เนื่องจากจะมีผลต่อราคาน้ำมันโลก ซึ่งมองว่าช่วงนี้ราคาน้ำมันดิบคงจะทรงตัวสูงมากกว่า

สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งภาพตลาดในช่วงนี้คงจะเป็นลักษณะของการแกว่งตัวมากกว่า

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,365-1,375 จุด และแนวต้านถัดอยู่ที่ 1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(20 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,002.99 จุด ลดลง 7.75 จุด(-0.05%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,652.35 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด(+0.38%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,613.59 จุด เพิ่มขึ้น 24.50 จุด(+0.68%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 34.90 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 5.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.16 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.93 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 4.10 จุด

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Ninoy Aquino ขณะที่ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการในวันนี้ เนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น"จ่ามี"

  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(20 ส.ค.) ที่ 1,370.86 จุด ลดลง 27.62 จุด(-1.98%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 11,362.27 ลบ. เมื่อ 20 ส.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(20 ส.ค.)ที่ 104.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.14 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(20 ส.ค.)ที่ 7.2 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดวันนี้อ่อนค่าสุดในรอบ 1 ปีที่ 31.70 บาท/ดอลลาร์
  • ค่าบาทอ่อนสุดรอบกว่า 1 ปี จากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 แย่,"ประสาร"ยันเศรษฐกิจไทยไม่เข้าข่าย "ภาวะถดถอย"เป็นแค่ทางเทคนิค มั่นใจไตรมาส 3 จะเติบโตเป็นบวก รับเศรษฐกิจไทยชะลอตัวตามภูมิภาคเอเชีย ด้านคลังระบุเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่เห็นสัญญาณฟื้นตัว ขณะศูนย์วิจัยกสิกรชี้ต้องดูรายละเอียด ระบุปีที่แล้วขยายตัวสูง ฟื้นตัวจากน้ำท่วม-มาตรการอัดฉีดภาครัฐ
  • ตลาดรถ ก.ค.ร่วงหนัก 25% หลังเกิดปัจจัยลบพร้อมกัน ทั้งภาวะเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ผลพวงกำลังซื้อล่วงหน้าถูกโครงการรถคันแรกดึง ค่ายรถอัดแคมเปญ เพิ่มส่งออกชดเชย ขณะที่อุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตไทยเบนเข็มรับจ้างเพื่อนบ้าน ขยายการผลิตนอกอุตสาหกรรมยานยนต์
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้รายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ว่า ในสัปดาห์หน้าจะเรียกกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือเพื่อเร่งรัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเร่งรัดการใช้จ่ายของภาครัฐให้มากขึ้นเพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
  • พิษเศรษฐกิจฉุดธุรกิจค้าปลีกปีนี้โตต่ำเป้าเหลือแค่ 6-8% กำลังซื้อหดตัวหนัก ผู้บริโภคระวังใช้จ่าย, สถานการณ์ธุรกิจค้าปลีกไทยปี 2556 เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงตามกำลังซื้อในประเทศ โดยครึ่งปีแรกขยายตัว 7-8% ต่ำกว่าที่คาดว่าจะเติบโต 10-12% และหากภาครัฐไม่ได้แก้ปัญหากำลังซื้อที่ลดลงจะทำให้ทั้งปีธุรกิจค้าปลีกขยายตัวไม่เกิน 10% หรือประมาณ 6-8%
  • รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงระดับหนี้ครัวเรือนของไทยในไตรมาสแรกที่อยู่ที่ระดับ 77.51% ต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่ากว่า 8.97 ล้านล้านบาท ว่า ควรแยกประเภทของสินเชื่อเพื่อใช้ในการคำนวณระดับหนี้ครัวเรือนโดยรวมให้มีความชัดเจนมากขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 188 บาท ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งในช่วง Driving Season ของสหรัฐ และความต้องการใช้น้ำมันของกลุ่มประเทศมุสลิมในภูมิภาคเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจัยความเสี่ยงต่ำจากราคาน้ำมันจากปัญหาความไม่สงบในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ทำให้ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อราคาน้ำมันใน 2H56 เป็นปัจจัยบวกต่อ PTTEP รวมทั้งยอดขายปิโตรเลียมใน 3Q56 คาดเพิ่มขึ้น 6% จาก 1H56 คาดจะเห็นกำไรสุทธิ 3Q56 ฟื้นQoQ อย่างมีนัยสำคัญ
  • SRICHA(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 45 บาท เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่ม Net Cash แนวโน้มครึ่งหลังปี 56 ดีกว่าครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิเพียง 34% ของประมาณการทั้งปีที่ 865 ล้านบาทด้วย คาดบริษัทยังคงมีรายได้เพิ่มจาก Backlog ราว 1.2 พันล้านบาท งานหลักเป็นของไทยออยส์มูลค่า 1 พันล้านบาทรับรู้รายได้ภายในปี 56 ตามกรอบเวลา
  • TTA(เคทีบี)"เก็งกำไร"คาดจะได้แรงหนุนทางบวกระยะสั้นจากดัชนี BDI สูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวโน้มเป็นบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคต ราคาเป้าหมายตาม SAA Consensus เท่ากับ 21.60 บาท
  • HEMRAJ(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับกำไรปี 2013-14 ขึ้น 4.3% และ 4.8% ตามลำดับ เป็นโต 14% ในปี 56และ 35% ในปี 57 ปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นและปรับราคาเป้าหมายขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.20 บาทจากเดิม 4.10 บาท แนวโน้มกำไรใน 2H13 อาจชะลอลงเพราะยอดโอนที่ดินที่น้อยลง แต่มีปัจจัยหนุนจากการออก Property Fund โรงงานให้เช่า มูลค่า 4.5 พันล้านบาทใน 4Q13 ซึ่งยังไม่ได้รวมกำไรจากการขายสินทรัพย์ไว้ในประมาณการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ