ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะสู้ครึ่งปีแรกไม่ได้ เนื่องจากไม่ค่อยมีการรับรู้รายการพิเศษ แต่ปีนี้ CK ยังมีการรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างที่เติบโตดีกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก โดยรับรู้ราว 30,000 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 20,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี CK เป็นหุ้นตัวหนึ่งในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่มีความเสี่ยงขึ้นกับ Sentiment ทางการเมืองเป็นสำคัญ
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ซื้อ 35.00 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 34.50 บล.ไทยพาณิชย์ ซื้อ 33.00 บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 30.00 บล.เอเชีย พลัส ซื้อ 28.35 บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ซื้อ 27.00 บล.กรุงศรี ซื้อ 27.00
นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ปีนี้กำไรสุทธิของ CK จะปรับตัวขึ้นสูงมากถึง 7,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 568 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกทำกำไรไปแล้ว 6,322 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายการพิเศษจากการขาย TTW และ BMCL ซึ่งมีกำไรจากการขายถึง 5,700 ล้านบาท(หลังหักภาษี)
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าผลการดำเนินงานอาจจะสู้ครึ่งปีแรกไม่ได้ เนื่องจากไม่ค่อยมีการรับรู้รายการพิเศษ เท่าที่ดูอาจจะมีรายการพิเศษแค่ในทางบัญชีจากการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน CKP ซึ่งมีมูลค่าน้อยแค่ 400 ล้านบาทเท่านั้น คาดว่าจะเข้ามาในไตรมาส 3/56
ดังนั้น ช่วงครึ่งปีหลัง CK คงจะวัดผลงานกันที่การดำเนินงาน(Operation)อย่างเดียว ซึ่งมองว่าการดำเนินงานของ CK ยังมีการเติบโตที่ดี มีการรับรู้รายได้จากงานมากขึ้น ล่าสุด งานในมือ(Backlog)น่าจะอยูื้ที่กว่า 140,000 ล้านบาท(รวมงานเขื่อนน้ำบากแล้ว)
อย่างไรก็ดี CK เป็นหุ้นตัวหนึ่งในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่มีความเสี่ยงขึ้นกับ Sentiment ทางการเมืองเป็นสำคัญ
ส่วนนายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า กำไรของ CK ในปี 56 ถือว่าเติบโตจากปีก่อนมาก คาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ประมาณ 8,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 568 ล้านบาท
โดยส่วนใหญ่จะเป็นการรับรู้กำไรจากรายการพิเศษจากที่ขายหุ้น TTW และ BMCL ซึ่งรับรู้กำไรถึง 5,700 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนครึ่งปีหลังจะมีการรับรู้รายการพิเศษจากการนำ CKP เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เป็นการรับรู้กำไรประมาณ 500 ล้านบาทในไตรมาส 3/56
นอกจากนี้ CK ยังมีการรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างที่เติบโตดีกว่าปีที่แล้วอยู่ค่อนข้างมาก โดยคาดว่าปีนี้จะรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างประมาณ 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่รับรู้ฯ 20,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี หากมองในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)ก็ต้องยอมรับว่ากำไรคงจะสู้ครึ่งปีแรกไม่ได้ เพราะครึ่งปีแรกกำไรสูงมากถึง 6,300 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากรายการพิเศษเป็นหลัก
ด้าน บล.เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น CK คาดว่าในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าอาจเห็นความเคลื่อนไหวของการปล่อยงบประมาณบางส่วนของภาครัฐ ซึ่งยังคงเป็นประโยชน์ให้กับการรับงานของ CK กรณีภาครัฐเริ่มผลักดันงบประมาณสาธารณูปโภคต่างๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่ได้รับงานจากภาครัฐในระยะใกล้ แต่การรับรู้รายได้จากงานในมือยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องจากงานในมือ และใน 3Q56 อาจเห็นการบันทึกกาไรหลังการนำ CKP เข้าตลาดหลักทรัพย์ราว 400-500 ล้านบาทช่วยสนับสนุนผลประกอบการ
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 56 ไว้ที่ 8,230 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิ 568 ล้านบาท