อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ารายได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า (57-59) เติบโตปีละไม่ต่ำก่า 20% ต่อปี ส่วนในปีหน้าตั้งเป้ามียอดขายจากการประมูลรถยนต์และมอเตอร์ไซด์อยู่ที่ 100,000 คัน จากปีนี้อยู่ที่ 80,000 คัน
สำหรับการรุกตลาดประมูลรถยนต์ในอาเซียน บริษัทได้มีการเจรจากับพันธมิตรในฟิลิปปินส์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ในการรุกตลาดอาเซียนได้รวดเร็วที่สุด โดยคาดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงกลางปี 57 นอกจากนี้ บริษัทยังเจรจากับพันธมิตรใประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียด้วยเช่นกัน
นายเทพทัย ศิลา ประธานกรรมการบริหาร AUCT เปิดเผยว่า บริษัทมีการปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปีนี้มาอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 352.26 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายเดิมอยู่ที่ 10-15% ทั้งนี้ บริษัทปรับเป้าหมายการเติบโตเนื่องจากบริษัทสามารถขยายการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เบื้องต้น AUCT ได้ทำการขยายพื้นที่จอดรถประมูลบริเวณสำนักงานใหญ่ให้สามารถรองรับรถได้มากขึ้นประมาณ 2,500 คัน จากเดิมรองรับได้ 2,000 คัน อีกทั้งยังได้เพิ่มวันประมูลที่สำนักงานใหญ่เป็น 4 วัน/สัปดาห์ (อังคาร พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์) จากเดิม 2 วัน/สัปดาห์ และที่สาขารังสิตคลอง 8 เพิ่มเป็น 4 วัน/สัปดาห์ (พุธ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์) จากเดิม 1 วัน/สัปดาห์ ซึ่งการขยายพื้นที่จอดรถและเพิ่มวันประมูลดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมีจำนวนรถที่ประมูลขายสำเร็จได้มากขึ้น ทำให้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนปรับสัดส่วนการประมูลขายรถในอนาคตให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้จริงมากขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนผู้ประกอบการ 90% และผู้ใช้จริงเพียง 10% เป็นผู้ประกอบการ 70% และผู้ใช้จริง 30% โดยบริษัทอยู่ระหว่างการทำแผนเพื่อสื่อสารกับกลุ่มผู้ใช้รถมากขึ้น และคาดว่าสัดส่วนการประมูลดังกล่าวจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2556
“บริษัทต้องการขยายสัดส่วนผู้ใช้รถทั่วไปให้เข้ามาเลือกซื้อรถยนต์มือสองกับสหการประมูลมากขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัทออกไป ซึ่งในการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มนี้บริษัทจะชี้ให้เห็นถึงประโยชน์และความคุ้มค่าของการประมูลซื้อรถกับสหการประมูล ทั้งในแง่ของคุณภาพ การการันตีสภาพรถ และราคาที่เหมาะสม"นายเทพทัย กล่าว
นายเทพทัย คาดว่า อัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะมากกว่า 10% จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ 9% เนื่องจากบริษัทได้ลดต้นทุนต่างๆลง เช่น ค่าเช่าและค่าเสื่อมราคา ประกอบกับ การเพิ่มจำนวนพื้นที่และระยะเวลาในการประมูลรถ เพื่อให้เป็นการประหยัดต่อขนาด และรองรับการเติบโตของการประมูลรถในอนาคต
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/56 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 99.38 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.12 ล้านบาท หรือ 20.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 82.26 ล้านบาท โดยบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้ 8.84 ล้านบาทในงวดไตรมาส 2/56 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.32 ล้านบาท หรือ 35.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.53 ล้านบาท