(เพิ่มเติม) EGCO ปรับเพิ่มงบลงทุนปีนี้เป็น 1.8 หมื่นลบ., คาดกำไร H2/56 ใกล้เคียง H2/55

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 22, 2013 16:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) ปรับเพิ่มงบลงทุนปีนี้เป็น 1.8 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.5 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 57 จะใช้งบลงทุน 2.2 หมื่นล้านบาท หากเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศ ที่มีขนาด 80-90 เมกะวัตต์

ส่วนกำไรครึ่งหลังปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทปรับเพิ่มงบลงทุนอีก 3 พันล้านบาท เป็นผลจากการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม "โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม" รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรีเลีย กำลังติดตั้ง 113 เมกะวัตต์ ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 100

ส่วนในปี 57 คาดใช้งบลงทุนเพิ่มเป็น 2.2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการลงทุนโครงการเดิมต่อเนื่องจากปีนี้ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานลม"โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม" อีก 5 พันกว่าล้านบาท โรงไฟฟ้าขนอม 5 พันกว่าล้านบาท โรงไฟฟ้า SPP 2 โครงการใน จ.ราชบุรี คือโครงการ ทีพี โคเจน และ เอสเค โคเจน รวมใช้เงิน 4 พันล้านบาท โครงการไซยะบุรี 300 ล้านบาท ส่วนโครงการใหม่ ได้แก่ โรงไฟฟ้าเคซอนส่วนขยาย 2 พันล้านบาท และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ จ.ชัยภูมิ 4 พันล้านบาท

นายสหัส กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่จ.ชัยภูมิ ขนาด 80-90 เมกะวัตต์ เป็นโครงการที่บริษัทได้เสนอขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ไปแล้ว และคาดว่าจะรู้ผลภายใน 1-2 เดือน โดย EGCO จะเข้าถือหุ้นโครงการนี้สัดส่วน 90% อีก 10% เป็นเอกชนรายอื่นที่ช่วยจัดหาและรวบรวมที่ดิน โดยโครงการนี้จะได้รับค่า Adder 3.50 บาท/หน่วย คาดว่าจะจ่ายไฟได้ประมาณปลายปี 59

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเคซอนส่วนขยายในฟิลิปปินส์ คาดว่าจะข้อสรุปการลงทุนในปลายปี 56 หรือต้นปี 57 ซึ่งขึ้นอยู่กับการเจรจาค่าไฟฟ้า

นายสหัส ยังกล่าวว่า โรงไฟฟ้าระยองจะสิ้นอายุสัมปทานในปลายปี 57 ได้ขอยื่นต่ออายุออกไปอีก 5 ปี คาดว่าน่าจะรู้ผลช่วงปลายปีนี้ หากไม่ได้ต่ออายุควรจะรู้ก่อนหมดอายุ 6 เดือน เพื่อจะได้วางแผนว่าอย่างไรกับที่ดิน ส่วนตัวโรงไฟฟ้าจะขายต่อให้กับพม่า อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพลังงานได้มีความเห็นว่าควรจะนำโรงไฟฟ้าระยองมาสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ เพราะขณะนี้หาพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ยาก

ทั้งนี้ อาจจะสร้างเป็นโรงไฟฟ้าใหม่ขนาด 1,800 เมกะวัตต์ เงินลงทุนประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 4-5 ปี จากปัจจุบันมีกำลังผลิต 1,232 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐ โดยจะต้องรอดูแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย 53-73 (PDP 2010)ที่คาดว่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จในไตรมาส 3/56 หรือไตรมาส 4/56

"ผมไม่แน่ใจ (ทำโรงไฟฟ้าใหม่) ขึ้นอยู่กับทางนโยบาย เงินลงทุนไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเรายังกู้ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่เรื่องเทคนิค เรื่องการจัดการโรงเก่า ถ้าไม่ทำอะไรแล้วทิ้งเวลา โรงเก่าจะหมดมูลค่า" นายสหัส กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการรอผลประมูลโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย ขนาดกำลังติดตั้ง 1,200 เมกะวัตต์ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่ง EGCO ร่วมกับพันธมิตรหลายรายเข้าประมูล โดย EGCO จะถือหุ้นประมาณ 25% และปีหน้าคาดว่าจะเข้าซื้อเงินลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินในเวียดนาม

นายสหัส คาดว่า ผลกำไรในช่วงครึ่งหลังปี 56 จะใกล้เคียงกับกำไรในช่วงครึ่งหลังปี 55 เพราะโรงไฟฟ้าใหม่เข้าระบบช่วงครึ่งหลังปี 55 และยังคาดว่าผลกำไรในปี 56 จะดีกว่าปีก่อน โดยช่วงครึ่งแรกปี 56 มีกำไรก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 4,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนที่ 3,515 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 17.55%


แท็ก ผลิตไฟฟ้า   (EGCO)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ