สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB155A, LB176A และ LB145B (รุ่นอายุ 1.8 ปี, 3.8 ปี และ 0.8 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 12,850 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT162A)มูลค่า 139.5 ล้านบาท
2. หุ้นกู้อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL194A) มูลค่า 103.2 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของบริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) (TK167A) มูลค่า 100.4 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 343.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 63.2% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,643 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,050 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -10,585 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.48% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.64% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.11%
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุตราสาร โดยเฉพาะตราสารรุ่นอายุ 5 ปีขึ้นไป ปรับเพิ่มขึ้น 11-23 bps. จากแรงขายของนักลงทุนบางส่วนโดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ โดยตลาดจับตากระแสภาวะเงินทุนไหลออก และการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่มีแนวโน้ม