ในวันนี้ CSS ได้แต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน รวมทั้งผู้ร่วมจัดจำหน่าย 8 แห่ง ประกอบด้วย บล.ฟินันเซีย ไซรัส แกนนำในการผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย, บล.คันทรี่ กรุ๊ป, บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ,บล. ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย), บล.ไทยพาณิชย์, บล. โนมูระ พัฒนสิน, บล.เอเซีย พลัส และบล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย)
อนึ่ง CSS ดำเนินธุรกิจหลัก 2 ประเภท คือ เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายและการให้บริการติดตั้ง สายไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ระบบงานไฟฟ้า รวมถึงวัสดุและอุปกรณ์ป้องกันไฟลามจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก และดำเนินธุรกิจให้บริการติดตั้ง บริการออกแบบ จัดหา และติดตั้งระบบโทรคมนาคมและระบบป้องกันไฟลาม รวมทั้งให้บริการงานด้านบำรุงรักษาระบบโทรคมนาคม
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CSS เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO แบ่งเป็นการเสนอขายให้แก่ประชาชนจำนวน 190 ล้านหุ้น และเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยจำนวน 10 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 3 บาท ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท โดยมีส่วนลดให้กับนักลงทุนสูงถึง 49.80% เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของหมวดพาณิชย์และบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจที่ใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัท ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งอยู่ที่ 26.65 เท่า
“ที่ผ่านมาเราได้เดินทางไปโรดโชว์ 4 จังหวัด ประกอบด้วย หาดใหญ่ ขอนแก่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ซึ่งนักลงทุนให้การตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากธุรกิจของ CSS มีความแข็งแกร่งและศักยภาพการเติบที่โดดเด่นอย่างมาก สำหรับการกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอของ CSS ในครั้งนี้ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตจากธุรกิจการให้บริการติดตั้งระบบโทรคมนาคมที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายโครงข่ายบริการ 3G ของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีส่วนลดให้กับนักลงทุนถึง 49.80% ดังนั้น ผมจึงเชื่อมั่นว่าหุ้น CSS จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างเป็นอย่างมาก และจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนด้วย" นายสมภพ กล่าว
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CSS เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ลงทุนในการก่อสร้างคลังสินค้าและอาคารสำนักงานแห่งใหม่และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต เนื่องจากปริมาณความต้องการของลูกค้ายังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวทั้งภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโทรคมนาคมภายในประเทศ ดังนั้น มั่นใจว่าในอนาคต CSS จะสามารถขยายตัวต่อไปได้อีกมากจากเงินทุนหมุนเวียนที่มีมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
“นอกเหนือจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทแล้ว เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอีกทางหนึ่ง กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจึงยินดีที่จะไม่นำหุ้นในส่วนที่ไม่ติด Silent Period มาขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นระยะเวลา 3 เดือน ดังนั้น นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่นำหุ้นของบริษัทออกขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันแรกที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อย่างแน่นอน"นายสมพงษ์ กล่าว
ด้าน นางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ CSS กล่าวว่า ราคา 3 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีความน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจาก CSS มีจุดแข็งตรงที่มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรม ประกอบกับมีปัจจัย พื้นฐานแข็งแกร่ง และมีผลประกอบการเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีมาโดยตลอดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมากว่า 20 ปี จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของบริษัท สามารถฝ่าฟันวิกฤติต่างๆ จนกระทั่งยืนหยัดได้อย่างแข็ง แกร่งเช่นทุกวันนี้ จึงทำให้มั่นใจว่าหุ้นไอพีโอของ CSS จะได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุน
ปัจจุบัน CSS มีทุนจดทะเบียน 350 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 700 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนเรียกชำระแล้ว 250 ล้านบาท