สำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังมีการเติโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาะเศรษกิจจะชะลอตัว แต่บริษัทไม่มีความกังลมากนัก เนื่องจากตลาดวัสดุก่อสร้างยังมีการเติโตอย่างต่อเนื่อง และมีขนาดที่ใหญ่ราว 30,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อีกมาก และตลาดในการซ่อมแซมยังดีต่อเนื่อง
“เกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยจริงมันก็ยังไม่ชัดเจน เท่าที่ดูจากการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง งานก่อสร้างโครงการต่างๆหรือการขยายธุรกิจของภาครัฐและเอกชนก็ยังดีต่อเนื่อง แรงงานที่ขาดแคลนในช่วงนี้เป็นตัวชี้วัดว่าเศรษฐกิจยังดีอยู่ การว่างงานของเราก็อยู่ในระดับต่ำมาก ขณะที่ล่าสุดกระทรการคลังออกมาประกาศว่าเก็บภาษีปีนี้ได้เกินเป้า มันก็สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังดีอยู่
ส่วนตัวบริษัทเราเองก็ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตลาดวัสดุก่อสร้างมันใหญ่มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ธุรกิจเรามีรายได้ 10,000 กว่าล้านบาท ยังน้อยเมื่อเทียบกับตลาด ถึงแม้เศรษฐกิจเราจะไม่ดี ก็มีผลกระทบน้อย ตลาดซ่อมแซมยังดีต่อเนื่อง และธุรกิจเรามีโอกาสไปได้อีกมาก มันขึ้นอบู่กับตลาดเป็นของใคร"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับการขยายสาขา บริษัทตั้งเป้าหมายสิ้นปี้จะเพิ่มเป็น 30 สาขา โดยปัจจุบันมีสาขาที่เปิดแล้วจำนวน 25 สาขา โดยใช้เงินลงทุนในที่ดินก่อสร้างอาคารราว 200 ล้านบาทต่อสาขา และเงินลงทุนในการซื้อสินค้าเข้ามาจำหน่ายในสาขาเก่า 200 ล้านบาทต่อสาขาเช่นกัน