(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีวันนี้ลุ้นรีบาวน์ คาดหวังชะลอถอน QE-แรงขายต่างชาติชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 26, 2013 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ทางเทคนิคหลังจากที่ได้ปรับตัวลงมา 7 วันติดต่อกัน โดยมองปัจจัยจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่ค่อยดี ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่ามาตรการ QE อาจจะมีการชะลอการถอนออกไปก่อน จากเดิมที่มองว่าจะถอนในเดือนหน้า(ก.ย.) นอกจากนี้เริ่มเห็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติชะลอค่อนข้างมาก

สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกเล็กน้อย ในกรอบ 0.3-0.7% ทั้งนี้ปัจจัยที่จะต้องติดตามคือ ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนงวดเดือนก.ค.ของสหรัฐฯ และดัชนีชี้วัดกิจกรรมภาคอุตสาหกรรมงวดเดือนส.ค.ที่จะประกาศในวันนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,325 จุด แนวต้าน 1,350-1,360 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(23 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 15,010.51 จุด เพิ่มขึ้น 46.77 จุด(+0.31%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,663.50 จุด เพิ่มขึ้น 6.54 จุด(+0.39%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,657.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.08 จุด(+0.52%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 59.01 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.96 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 79.89 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 33.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.43 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.07 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.60 จุด

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน National Heroes

  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(23 ส.ค.) ที่ 1,338.13 จุด ลดลง 13.68 จุด(-1.01%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 554.27 ล้านบาท เมื่อ 23 ส.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(23 ส.ค.)ที่ 106.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.39 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(23 ส.ค.)ที่ 3.09 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.86/87 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค
  • นายแบงก์เตือน "ผู้ส่งออก-นำเข้า" ประกัน ความเสี่ยง ระบุตลาดเงินผันผวนรุนแรง ประเมินทิศทางยาก แกว่งรายวันตามกระแสข่าว ประเมินแนวโน้มยังอ่อนค่าต่อในสัปดาห์นี้ แนะผู้ส่งออกทยอยขายปิดความเสี่ยง หากค่าบาทอ่อน ขณะผู้นำเข้าทยอยซื้อช่วงบาทแข็ง
  • นักวิเคราะห์ชี้ การทรุดตัวของค่าเงินในตลาดเกิดใหม่เหตุวิตกเฟดชะลอคิวอี ไม่ซ้ำรอยวิกฤติการเงินเอเชียปี 2540 "ครุกแมน" ระบุ หนี้ต่างประเทศตลาดเกิดใหม่ ไม่สูงเหมือนในอดีต ด้านผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก ระบุเช่นกันว่า ความเป็นไปได้ของการชะลอคิวอีทำให้เสถียรภาพทางการเงินโลกตกอยู่ในความเสี่ยงเหตุเพราะตลาดเกิดใหม่ขาดเครื่องมือป้องกันกระแสทุนไหลออก
  • บีโอไอ เผยลงทุน"เอฟดีไอ" ปีนี้ลดเหลือ 4.5-5.5 แสนล้านเหตุเศรษฐกิจไทยและการส่งออกชะลอตัว ส่งผลจิตวิทยานักลงทุน ยอมรับขอส่งเสริมแล้วไม่ลงทุนก็ได้ เผย 7 เดือน ขอส่งเสริมลดลง 15% นักลงทุนญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์อันดับหนึ่ง ความขัดแย้งการเมืองไม่ส่งผลกระทบ ขณะที่เอกชนประเมินส่งออกปีนี้โตได้แค่ 4-5% ไร้ปัจจัยหนุน สินค้ากลุ่มอาหาร-เกษตรดันไม่ขึ้น แนะรัฐเร่งทำข้อตกลงการค้าดึงคำสั่งซื้อ เหตุ 3 ตลาดหลักเริ่มฟื้นตัว
  • สทท.ประเมินท่องเที่ยวขยายตัวพุ่ง รายได้ปีนี้แตะ 1.71 ล้านล้านบาท ช่วยผลักดันเศรษฐกิจขยายตัว เผย ยอดนักท่องเที่ยว 26 ล้านคน พุ่ง 17% สัดส่วนภาคการท่องเที่ยวขยับเป็น 9% ของ จีดีพี แนะรัฐขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การจัดการท่องเที่ยว ผวาการเมืองฉุดท่องเที่ยว
  • รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงการคลัง ได้ทยอยส่งมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมาให้พิจารณาแล้ว ได้แก่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่เสนอโครงการแสนละพัน หรือกู้เงิน 1 แสนบาท จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยเดือนละ 1,000 บาท โดยกำหนดวงเงินเบื้องต้น 1 หมื่นล้านบาท
  • แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ได้ปรับแบบรายละเอียดระบบรางและสถานีบางซื่อใหม่เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเพิ่มรางรถไฟเป็น 4 ราง จากเดิม 3 ราง และขยายพื้นที่ชานชาลาสถานีบางซื่อเป็น 600 เมตร จากเดิม 200 เมตร ส่งผลให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1.5 หมื่นล้านบาท
  • เรกูเลเตอร์เตรียมออกประกาศระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์ พีวีรูฟท็อป)ประเภทบ้านและอาคารโรงงาน โดยจะเริ่มเปิดให้ผู้สนใจยื่นโครงการได้ตั้งแต่วันที่2 ก.ย.นี้ที่สำนักงานเขตของการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ กำหนดกำลังการผลิตรวมไม่เกิน 200 เมกะวัตต์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SPALI (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 26.50 บาท คาดจะเห็นผลประกอบการที่ฟื้นตัวทั้งจาก 2H56 และต่อเนื่องในปี 2557 จากงานในมือระดับสูง โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ใน 2H56 ราว 8.4 พันล้านบาทหรือคิดเป็น 84% ของประมาณการรายได้จากการขาย และ ในปี 2557 ราว 1.5 หมื่นล้านบาทคิดเป็น 80%ของประมาณการทั้งปีที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในระยะยาว
  • STEC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 29.50 บาท งานในมือปัจจุบัน 7.4 หมื่นล้านบาทหลังสัปดาห์ก่อนรับงานโรงไฟฟ้าขนอมมูลค่าโครงการรวม 4.3 พันล้านบาท เป็นไปตามคาดหมายการรับงานเอกชนใน 2H56 มูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ 2H56 มีโอกาสเติบโตเด่นกว่าใน 1H56 จุดเด่นคืออัตรากำไรสุทธิ 5-6% ต่อเนื่องและสูงกว่าคู่แข่ง
  • KBANK (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 228 บาท กลุ่มธนาคารคาดหวังการรีบาวน์ในระยะสั้นหลัง 1 สัปดาห์ลงแรงถึง -8.8% เทียบกับ SET INDEX ที่ลดลง -7.9% และการทยอยประกาศเงินปันผล 1H56 ของหุ้นกลุ่มธนาคารต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ โดยหุ้น KBANK ถูกขายชอร์ต(SBL)สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสูงถึง 1,222 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 169.28 บาท และคาดการณ์เงินปันผล 1H56 หุ้นละ 0.50 บาท
  • BTS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"มองบวกต่อการแจก BTS-W3 ให้ผู้ถือหุ้นเดิม 3:1 XW 16 ต.ค.วอร์แรนท์อายุ 5 ปี ราคาใช้สิทธิ 12 บาท ใช้สิทธิได้หลังจากครบกำหนด 3 ปี จึงไม่มี dilution ต่อ EPS ใน 3 ปีนี้ ยังคงเป้าหมาย 10.50 บาท BTS เป็นหุ้นที่เหมาะมากในช่วงตลาดขาลง เพราะการันตีเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 0.50 บาทในปีนี้ คิดเป็น yield 6.2% (XD แล้วสำหรับครึ่งปีแรก 0.19 บาท) การให้ BTS-W3 ยิ่งเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นเดิม เป็นการจำกัด downside ของราคา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ