นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ KBANK กล่าวว่า ปีนี้ธนาคารยังคงเป้าสินเชื่อเติบโต 9-11% เพราะการลงทุนภาคเอกชนยังเติบโต โดยเฉพาะการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ยังมีการระดมทุนในรูปแบบต่างๆ ส่วนสินเชื่อบุคคลก็ไม่ได้ลดลง แต่ธนาคารเฝ้าระวังมากขึ้น แม้ยังไม่เห็นสัญญาณการผิดชำระหนี้ของลูกค้า โดยปัจจุบัน NPL ยังอยู่ที่ 2% ซึ่งไม่น่ากังวล
ขณะที่มองว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสเติบโตได้ 4% จากปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นเมื่อจบไตรมาส 3/56 หากเศรษฐกิจของประเทศหลักทั้งสหรัฐและญี่ปุ่นฟื้นตัว ก็จะทำให้การส่งออกไทยดีขึ้นด้วย
สำหรับส่วนปี 57 ธนาคารยังตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตใกล้เคียงปีนี้ที่ 9-11% และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ดีกว่าที่เติบโตราว 4% ในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวมากขึ้น และหากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยคลี่คลายลง ความกังวลของผู้บริโภคก็จะลดลงและจะทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วย
"อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยช่วง 18 เดือนจากนี้ไปยังอยู่ในภาวะผันผวน ตามการไหลเข้าออกของเงินทุนที่จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อค่าเงินด้วย ดังนั้นภาคธุรกิจจะต้องเน้นที่การบริหารต้นทุนและการแสวงหาตลาดใหม่เพื่อสร้างสมดุล เพราะเศรษฐกิจในประเทศชะลอ แต่เศรษฐกิจประเทศรอบด้านยังโตได้ดี" นายธีรนันท์ กล่าว