สำหรับบริษัทจดทะเบียนทั้งที่อยู่ระหว่างเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25 บริษัท แบ่งเป็นหุ้นที่ต้องการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) 13 บริษัท และหุ้นที่จะเข้าซื้อขายในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) 11 บริษัท รวมทั้งกงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 1 กอง ของบมจ.เอสพีซีจี (SPCG)
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนเสนอขาย IPO ได้ในครึ่งปีหลังประมาณ 15 บริษัท รวมทั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ SPCG จากครึ่งปีแรกมีหุ้น IPO เสนอขายไปแล้ว 21 บริษัท
สำหรับความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวคาดว่าไม่กระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากการค้าขายและการลงทุนยังมีการดำเนินการที่ดีอยู่ และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยในปีนี้บริษัทจดทะเบียนจ่ายเงินปันผลไปแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก
“บริษัทจดทะเบียนในประเทศก็ยังมีผลการดำเนินงานที่ดี เงินสดก็ยังมีอยู่มาก คิดเป็น 8-9% ของสินทรัพย์ 9.5 ล้านล้านบาท ความสามารถในการกู้หนี้ยืมสินที่จะมาลงทุนก็มีเพิ่มขึ้น ในขณะที่ระดับหนี้ยังต่ำ ประกอบกับการออกไปขยายการลงทุนในภูมิภาค อย่างเช่น ลาว กัมพูชา และพม่า ก็ยังมีมากขึ้น แต่ยังน้อยกว่ามาเลเซียและสิงคโปร์ การควบรวมกิจการก็ยังมีอยู่
แต่ภาวะเศรษฐกิจชะลอที่คนกังวลอาจเป็นเพราะอ่านจากสื่อต่างๆมากกว่า ซึ่งจะเห็นว่าจริงๆแล้วนักท่องเที่ยวก็ยังเดินทางเข้ามาเที่ยวอยู่ การลงทุนในประเทศและการค้าขายในประเทศก็ยังคึกคัก อัตราเงินเฟ้อก็ยังไม่สูงมาก แม้ภาคการส่งออกจะมีผลกระทบบ้าง แต่ถือว่าบริษัทจดทะเบียนก็ยังมีการเติบโตอยู่ และยังมีการจ่ายเงินปันผลไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท ในครึ่งปีแรก"นายชนิตร กล่าว