ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังผู้บริโภคจะมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจมากขึ้น หลังจากการเมืองเริ่มมีความชัดเจนและนิ่งขึ้น ส่งผลให้กำลังการซื้อในตลาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และจะทำให้เม็ดเงินที่จะเข้ามาซื้อสื่อโฆษณามากขึ้น ประกอบกับ รายได้จากค่าโฆษณาผ่านสื่อทีวีดาวเทียมเติบโตถึง 35% ซึ่งเป็นการเติบโตมากกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่เติบโตราว 13-14% ซึ่งจะทำให้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์รายได้ทั้งปี 56 จะออกมาใกล้เคียงกับปีก่อน แต่มั่นใจว่ากำไรจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน หลังจากครึ่งปีแรกบริษัทสามารถทำกำไรได้แล้วกว่า 31 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น รวมถึงได้มีการยกเลิกช่องรายการที่มีกำไรต่ำ จึงส่งผลดีต่อกำไรของบริษัท
สำหรับอัตราค่าโฆษณาในปัจจุบัน ในช่วงไพร์มไทม์อยู่ที่ 15,000 บาท/นาที ซึ่งเวลาโฆษณาในส่วนนี้ใกล้จะเต็มแล้ว ขณะที่ช่วงที่ไม่ใช่ไพร์มไทม์ อัตราค่าโฆษณากว่าช่วงไพร์มไทม์ราว 30-40% ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้ซื้อโฆษณาแล้วกว่า 70% และบริษัทจะกระตุ้นให้มีการลงโฆษณาในส่วนนี้มากขึ้น