ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าร่วง 1.73% เจอแรงขายล็อคความเสี่ยง QE และ FX หลังบาทอ่อนค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 27, 2013 12:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,306.12 จุด ลดลง 23.06 จุด(-1.73%) มูลค่าการซื้อขาย 18,052.67 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,322.72 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,303.94 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยุ่ในแดนลบ แต่ตลาดบ้านเรายังปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดอินโดนีเซียที่ปรับตัวลงไป 3.06% และตลาดฟิลิปปินส์ที่ปรับตัวลงไป 4.3% เนื่องจากตลาดฯเวลานี้มีแต่ปัจจัยลบ

ตลาดหุ้นมีการเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากการมองความเสี่ยงในเรื่องการลดขนาด QE โดยเฉพาะต่อประเทศใน Emerging Market มีความเสี่ยงสูงอย่างที่อินเดียและอินโดนีเซียโดนไปแล้ว ส่วนไทยขณะนี้ก็ขาดดุลการค้า เศรษฐกิจไทยอ่อนแอลง นอกจากนี้ "โกลแมนแซค"ได้คาดการณ์ค่าเงินบาทจะอ่อนลงมาแถว 33 บาท/ดอลลาร์ฯในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดังนั้นจึงมีโอกาสที่เงินจะไหลออกสูงจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง และต่างชาติก็ขายเพื่อล็อคความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนก่อน

ดังนั้น ขณะนี้ตลาดฯจึงมีทิศทางลง แม้อาจจะมีการรีบาวด์ทางเทคนิคบ้างแต่ก็จะลงต่ออีกจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว หรือรัฐบาลออกมาตรการใหม่ออกมา รวมทั้งก็รอดูเรื่อง QE ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ด้วย ซึ่งในระยะ 2 สัปดาห์นี้ ตลาดฯก็มีโอกาสถูกขายชอร์ตต่อไปอีก

ทั้งนี้ แม้ตลาดฯจะปรับตัวลงมามากแล้ว แต่ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานถือว่ายังไม่ถูกมาก เพราะตลาดบ้านเราปรับตัวขึ้นมา 100% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ให้เกาะติดงาน Thailand Focus วันพรุ่งนี้ว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน

สำหรับสถานการณ์ในซีเรียเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะมีผลต่อราคาน้ำมัน ซึ่งก็น่าคิดที่ว่าเมื่อราคาน้ำมันขึ้นขณะที่เศรษฐกิจไม่ดีแล้วสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบ พร้อมให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,300-1,288 จุด ถัดไปก็เป็น 1,280 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,310-1,315 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

          JAS     มูลค่าการซื้อขาย 1,144.94 ล้านบาท ปิดที่    7.45 บาท  ลดลง  0.35 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,121.76 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท ลดลง 1.75 บาท

          TRUE    มูลค่าการซื้อขาย 1,094.20 ล้านบาท ปิดที่    7.05 บาท  ลดลง  0.35 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 855.38 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 1.75 บาท

BAY มูลค่าการซื้อขาย 799.65 ล้านบาท ปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ