(เพิ่มเติม) "กิตติรัตน์"เชื่อตลาดหุ้นผันผวนน้อยลงหลังเงินทุนระยะสั้นไหลออกเกือบหมด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 28, 2013 11:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นของเงินทุนระยะสั้น ควบคู่กับการเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตร แต่เมื่อสหรัฐมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงนโยบาย QE ทำให้เม็ดเงินทุนระยะสั้นเริ่มไหลออกไปจากตลาดหุ้นไทย ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับทราบตอนนี้เงินทุนทุนระยะสั้นออกไปเกือบจะหมดแล้ว ที่เหลืออยู่เป็นเม็ดเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งตรงนี้จะช่วยลดความผันผวนในตลาดได้
"ในช่วงหนึ่งนักลงทุนระยะสั้นเข้ามาคู่กับการเข้ามาในตลาดบอนด์ แต่เมื่อเวลามีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย QE ทำให้เงินระยะสั้นๆ ไหลออกไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นจะเหลือแต่นักลงทุนที่มีเจตนาจะลงทุนระยะยาวจริงๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ทำให้ตลาดผันผวนน้อยลง" นายกิตติรัตน์ กล่าว

สำหรับการที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมา มีส่วนช่วยให้นักลงทุนระยะยาวเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น และจากข้อมูลที่มีอยู่สัดส่วนการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเริ่มน้อยลงและคาดว่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในไม่กี่วันข้างหน้า

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ได้ชี้แจงให้นักลงทุนสถาบันจากทั่วโลกทั้งผู้บริหารระดับสูงของกองทุน ผู้จัดการกองทุน ตลอดจนผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรป และเอเชียที่เข้าร่วมงาน"Thailand Focus 2013"ได้รับทราบถึงสถานะทางเศรษฐกิจของไทยในภาพรวมว่า ข้อมูลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ช่วงไตรมาส 2/56 รวมทั้งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีแนวโน้มที่ดีมาก ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีให้เห็นถึงความเข้มแข็งของธุรกิจต่างๆ

ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น แม้ GDP ของไทยในไตรมาส 2/56 จะเติบโตลดลงจากไตรมาส 1/56 แต่การขยายตัวของ GDP ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่ระดับ 4.1% ถือว่ายังเติบโตได้สูงกว่าช่วงครึ่งแรกของปี 55 ที่โตได้เพียง 2.6% เท่านั้น พร้อมเชื่อว่านักลงทุนที่เป็นมืออาชีพจะมีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่าความผันผวนถือเป็นเรื่องปกติของตลาดทุน ซึ่งการติดตามข้อมูลที่สำคัญของประเทศที่เข้าไปลงทุนก็ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง

"ถือว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เราต้องทำงานหนักและจริงจังต่อไปเพื่อให้เศรษฐกิจของเรามีเสถียรภาพ และได้รับความเชื่อมั่น นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงถึงการลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ โครงการลงทุนด้านคมนาคมขนส่ง รวมทั้งชี้แจงให้เห็นถึงนโยบายการเงินการคลัง การรักษาระดับหนี้สาธารณะที่เราจะควบคุมไว้ไม่เกิน 50%" นายกิตติรัตน์ กล่าว

นายกิตติรัตน์ ยอมรับว่าเรื่องการเมืองเป็นโจทย์ที่ต่อเนื่องกับเศรษฐกิจ ซึ่งบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือบางแห่งบอกว่าที่ยังไม่ปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของไทย แม้ดูแล้วจะมั่นใจมากขึ้นก็ตาม เพราะยังมีความกังวลจากปัจจัยทางการเมือง ดังนั้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อบรรยากาศทางการเมืองมีความสับสน ก็อาจจะทำให้เกิดความกังวล แต่เชื่อว่าผู้ที่ติดตามสถานการณ์มาต่อเนื่องจะเห็นว่าประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตยสูง มีการเปิดโอกาสให้มีการเรียกร้องหรือรับฟังความคิดเห็นในมุมที่แตกต่างกันโดยตลอด และสุดท้ายก็มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้ และได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพที่ดีในระยะปานกลางถึงระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ