นายบุญชัย สุวรรณวุฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PHOL เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จะใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ 794.12 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตราว 15 % เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมในประเทศที่การส่งออกชะลอตัวลง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท
ประกอบกับในช่วงต้นปีได้รับผลกระทบจากการผลิตสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพตรงตามกับที่ลูกค้าในสินค้ากลุ่มถุงมือยาง ทำให้ต้องมีการเปลี่นบริษัทผู้ผลิตใหม่ ซึ่งปัจจุบันก็หาได้แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มกลับมาจำหน่ายได้อีกครั้งในช่วงไตรมาส 4/56 ซึ่งบริษัทก็ยังจะขายสินค้าในส่วนนี้อยู่ถึงแม้ว่าสินค้าในส่วนนี้จะมีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ต่ำ แต่เป็นสินค้าที่มีปริมาณคำสั่งซื้อค่อนข้างสูง สามารถผลักดันรายได้ให้มีการเติบโตได้
"สินค้าในส่วนนี้ถึงแม้มาร์จิ้นจะไม่มากนัก แต่จะสามารถช่วยผลักดันรายได้ให้มีการเติบโตได้ดี เพราะมีปริมาณการขายที่มาก จะทำให้รายได้มีการเติบโต"นายบุญชัย
บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะรักษากำไรสุทธิให้เติบโตใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโตกว่า 33.47% หรือมีกำไรสุทธิ 29.84 ล้านบาท จากที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 22 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเน้นขายสินค้าที่มีกำไรค่อนข้างมาก
"ถึงแม้รายได้ในปีนี้มองแล้วอาจจะไม่มีการเติบโตแต่เราก็ได้มีการเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงเพื่อที่จะทำให้บริษัทฯ รักษากำไรสุทธิให้เติบโตได้กว่า 30%"นายบุญชัย กล่าว
ส่วนการเข้าไปลงทุนในกัมพูชานั้น บริษัทฯได้รับผลกระทบทางด้านการเมือที่เกิดความวุ่นวายในประเทศกัมพูชา ส่งผลให้มีความล่าช้าออกจากเดิมในการจดทะเบียนบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันก็ได้เข้าไปเริ่มดำเนินการจัดตั้งสาขา โดยได้มีการซื้อที่ดินแล้ว คาดว่าจะสามารถจดทะเบียนบริษัทได้เรียบร้อยในช่วงปลายเดือน ก.ย. และจะสามารถเริ่มทำการตลาดได้ในช่วงไตรมาส 4/56 เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำ ทั้งรายย่อยและโรงงานผลิตน้ำ รวมถึงจะมีการขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาชีวอนามัยด้วย