นายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ ประธานผู้บิรหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจการค้าภายในประเทศ CPF คาดว่า ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้จะมีการส่งออกดีขึ้น รวมทั้งยอดขายในประเทศสูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยคาดว่าครึ่งหลังปีนี้จะมีราคาปรับตัวสูงขึ้น 20% โดยราคาไก่แปรรูปส่งออกเฉลี่ยที่ 4,500 เหรียญ/ตัน ส่งผลให้กำไรในครึ่งปีหลังดีขึ้น
ทั้งปี 56 คาดว่าปริมาณยอดส่งออกไก่ทั้งไก่สดและไก่แปรรูป ปริมาณเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่ 8 หมื่นตันเป็น 1 แสนตันในปีนี้ ส่วนราคาคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 10-15% ที่เป็นผลจากการปรับราคาขึ้น ขณะที่ซัพพลายในตลาดมีน้อย และรับอานิสงส์จากเงินบาทที่อ่อนค่า
นอกจากนี้ CPF คาดว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะมียอดขายสินค้าที่มีแบรนด์โดยมีแบรนด์ซีพี (CP) เป็นหลัก จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวหรือเท่ากับ 80% ของยอดขายรวม จากปัจจุบัน บริษัทมียอดขายจากสินค้าที่มีแบรนด์สัดส่วน 40% ของยอดขายรวม ก็คาดว่าจะสามารถทำอัตรากำไรได้ดีขึ้น มากกว่าเดิม 5-10%
ในวันนี้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่นำร่องได้รับการรับรอง ProSustain Standard จาก Det Norske Veritas (DNV) คือ ผลิตภัณฑ์ไก่ ทั้งในส่วนไก่สด และ ไก่แปรรูป ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไก่รายแรกของโลกที่ได้รับรองผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (Product Sustainability) และเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมอาหารในเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากสามารถออกแบบ พัฒนา และควบคุมการผลิตตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่แห่งคุณค่าอาหาร(CPF Value Chain) ทั้งนี้ DNV เป็นองค์กรที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนในระดับโลก
นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า แนวโน้มผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับ Green Product มากขึ้น และยอมรับว่าธุรกิจจะดำเนินไปโดยไม่สนใจสิ่งแวดล้อมไม่ได้ ดังนั้น การที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการรับรองดังกล่าวจะช่วยมีโอกาสขยายช่องทางการจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น
"เรามีเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์ของเรายั่งยืน มีคุณค่า และเป็นที่ยอมรับทั้งตลาดในประเทศ และตลาดโลก...เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ผมคิดว่ากระแส Green Product ผู้บริโภคจะเป็นคนตัดสินใจ วันนี้เราเดินเร็วไปก่อนใคร ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจ ทำให้อุตสาหกรรมมีภาพพจน์ที่ดีรวมถึงประเทศเราด้วย" นายธีรศักดิ์ กล่าว
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ไก่สด และไก่แปรรูป ที่ได้รับการรับรองดังกล่าว มีจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยส่วนของตลาดต่างประเทศจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด ในกล่มประเทศแถบสแกนดิเนเวียน ประกอบด้วย เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์และไอร์แลนด์ ภายใต้แบรนด์ "คิทเช่น จอย"(Kitchen Joy Quality Product by CP) และนับเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแรงอย่างมากในฐานะผู้นำตลาดอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน(Market Share) โดยมีส่วนแบ่งตลาดถึง 70% ในเดนมาร์ก และ 94% ในฟินแลนด์ ส่วนตลาดในประเทศจัดจำหน่ายภายใต้ตราซีพี ผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดต่างๆ