"กำไรปีนี้ คาดว่าคงจะน้อยกว่าปีก่อนเล็กน้อย ส่วนหนึ่งรายได้อาจไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และเรื่องกำไรของโครงการห้วยบง 2 และ 3 ไม่สูงมาก ประกอบกับ การผลิตเสาโครงเหล็กผลิตไม่ได้ตาม Economy of Scale ทำให้ฉุดกำไรลงมา และการจ่ายเงินปันผลของ วินด์ฯ มีเงื่อนไขบางอย่างทำให้เราไม่ได้ปันผลตามที่คาดไว้" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทปรับลดรายได้ในปีนี้มาเป็นไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 7 พันล้านบาท เนื่องจากงานด้านเสาโครงเหล็กสำหรับการวางโครงข่าย 3G ชะลอการสั่งซื้อจากค่ายโทรศัพท์มือถือ
โดยในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะรับรู้รายได้ 3.5 พันล้านบาท จากในช่วงครึ่งปีแรกรับรู้ 2 พันล้านบาท นอกจากนี้จะมีรายได้จากการผลิตและงานขายเสาโครงเหล็ก 250 ล้านบาท รวมทั้ง คาดว่าในช่วง 4 เดือนที่เหลือในปีนี้ บริษัทจะได้รับงานใหม่มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ ประมาณ 250-260 ล้านบาท ส่วนที่เหลือรับรู้ในปี 57
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อหรือร่วมทุนโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 2 แห่งในภาคอีสาน ขนาดกำลังติดตั้งแห่งละ 1 เมกะวัตต์ รวมเป็น 2 เมกะวัตต์ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมยื่นขอทำ Solar Roof กับกระทรววงพลังงาน รวมทั้ง บริษัทศึกษาโรงไฟฟ้าพลังานชีวมวล ที่จะใช้หญ้าเนเปียร์ เป็นเชื้อเพลิง