ตลท.รับหุ้น CSS เริ่มซื้อขาย 3 ก.ย.หมวดธุรกิจพาณิชย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 30, 2013 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ. คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ ในวันที่ 3 กันยายน 2556 โดย CSS ดำเนินธุรกิจหลักเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าประเภทสายไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบงานไฟฟ้าของผู้ผลิตชั้นนำระดับสากล และเป็นผู้ให้บริการออกแบบติดตั้ง รวมถึงบำรุงรักษาระบบโทรคมนาคมและระบบป้องกันไฟลาม

CSS มีทุนชำระแล้ว 350 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 500 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 190 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 10 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 26-28 สิงหาคม 2556 ในราคาหุ้นละ 3 บาท โดยมีบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CSS เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทได้เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ ไปใช้ในการก่อสร้างคลังสินค้าและอาคารสำนักงานแห่งใหม่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของ CSS มีโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม

CSS มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวกังสวิวัฒน์ ถือหุ้น 33.02% กลุ่มครอบครัวเมฆมณี ถือหุ้น 8.81% และกลุ่มครอบครัวอิทธิแสง ถือหุ้น 6.21% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 13.38 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัท 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2555 - 30 มิถุนายน 2556) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาท โดยเมื่อเปรียบเทียบค่า P/E เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหมวดพาณิชย์และผู้ประกอบการอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน (ระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม — 15 สิงหาคม 2556) มีค่า P/E เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักอยู่ที่ 26.65 เท่า

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะบริษัท และหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสะสมอื่นๆ ตามที่บริษัทกำหนด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ