(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์-ลุ้นรีบาวด์หลังร่วงมาก ติดตามปัจจัยตปท.

ทั้งนี้ ปัจจัยของตลาดฯยังเป็นเรื่องเดิมทั้งเรื่องของการลดขนาด QE ที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในช่วงกลางเดือนนี้(ก.ย.)และเรื่องการโจมตีซีเรีย สถานการณ์ขณะนี้มองก้ำกึ่ง ซึ่งอาจจะออกมาใน การบุกโจมตีหรือไม่ก็ได้

สำหรับปัจจัยในประเทศยังมีเรื่องการชุมนุมของกลุ่มการเมืองต่างๆ

พร้อมให้แนวรับ 1,270 จุด แนวต้าน 1,300-1,320 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(30 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,810.31 จุด ลดลง 30.64 จุด(-0.21%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,632.97 จุด ลดลง 5.20 จุด(-0.32%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,589.868 จุด ลดลง 30.435 จุด(-0.84%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 49.21 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.71 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 217.35 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 11.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.04 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.65 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 1.95 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.81 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(30 ส.ค.)ที่ 1,294.30 จุด เพิ่มขึ้น 1.77 จุด (+0.14%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 43.83 ล้านบาท เมื่อ 30 ส.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(30 ส.ค.)ที่ 107.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.15 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(30 ส.ค.)ที่ 2.31 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.14/16 จับตากรณีซีเรีย-ตัวเลขเงินเฟ้อไทย
• นักวิเคราะห์แนะจับตาสถานการณ์ในซีเรีย ชี้หากเกิดสงคราม ตลาด"หุ้น-เงิน"ผันผวน ค่าเงินบาทส่อหลุด 32.6 บาท แต่อาจส่งผลเฟดชะลอแผนลดใช้มาตรการคิวอี เหตุหวั่นเศรษฐกิจทรุดต่อ ขณะที่ส่วนใหญ่ยังเชื่อเฟดเริ่มลดคิวก.ย.นี้
• ผู้นำสหรัฐประกาศจะโจมตีซีเรียแต่รอไฟเขียวจากสภา คาดเปิดประชุมปลายสัปดาห์ เปิดโอกาส "โอบามา" ระดมเสียงสนับสนุนจากนานาชาติ หลังฝรั่งเศสเป็นประเทศตะวันตกชาติเดียวที่หนุนปฏิบัติการทางทหาร
• ส.อ.ท.ประเมินปัจจัยเสี่ยง"ต้นทุนผลิตสูง-คำสั่งซื้อหดตัว-ปรับตัวไม่ได้"ส่งผล"เอสเอ็มอี" ปิดกิจการช่วงครึ่งหลังปีนี้สูง กลุ่มสิ่งทอ-เฟอร์นิเจอร์ หันพึ่งเพื่อนบ้านหนีต้นทุนสูง ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ระบุโรงงานเล็กมีโอกาสล้มหายกว่ารายใหญ่ที่ปรับตัวได้ดีกว่า กรมโรงงาน เผย 7 เดือนแรกปีนี้ โรงงานขนาดเล็กปิดตัว750 ราย ลดลงจากปีก่อน15%
• ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ภาคครัวเรือนเดือนละ 50 สตางค์ ค่าเอฟทีไฟฟ้าอีก 7.08 สตางค์ต่อหน่วย ตั้งแต่งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. และการขยับค่าทางด่วนขึ้น 5-10 บาท จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.2-0.3%
• ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เสนอไปยังกระทรวงการคลังเห็นชอบให้เพิ่มวงเงินในการนำธนบัตรไทยออกนอกประเทศตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมอนุญาตไม่เกิน 5 แสนบาท/คน เพิ่มเป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท/คน

*หุ้นเด่นวันนี้

• AMATA(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 27 บาท ประเด็นบวกใน 2H56 มาจากการเซ็นสัญญาจากลูกค้ารายใหญ่ราว 1 พันไร่ที่จะชัดเจน 4Q56 กลุ่มลูกค้าที่มีสินค้าต่อเนื่องจากลุ่มยานยนต์ยังเป็นลูกค้าหลักที่สนใจซื้อที่ดิน คาดว่าจะมียอดขายที่ดินในปี 56 ราว 1.8-2 พันไร่ จากครึ่งปีแรกที่มียอดขาย 611 ไร่ ซึ่งจะสะสมงานในมือให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 5 พันล้านบาท ช่วยสนับสนุนการรับรู้รายได้ที่ดีต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้กำไรปีนี้เติบโตเป็น 1.6 พันล้านบาท คาดให้ผลตอบแทนเงินปันผลทั้งปีได้ 4%
• SPALI (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 19 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงมาค่อนข้างมากสวนทางกับผลงานที่มีแนวโน้มดีขึ้นในครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 18 โครงการมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่เป็นบริษัทที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดเมื่อเทียบกับกลุ่ม มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 42% เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 35% ทำให้สามารถรองรับต้นทุนที่อาจเกิดขึ้นจากราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าแรงได้ดี ประเมินกำไรสุทธิในปี 56 จะเพิ่มขึ้น 19% YoY และในปี 57 จะเพิ่มขึ้นอีก 15% YoY
• BECL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 50 บาท บริษัทปรับขึ้นค่าทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 จำนวน 5-10 บาทเมื่อ 1 ก.ย.ส่งผลดีต่อครึ่งปีหลังโดยเฉพาะไตรมาส 3 เป็น high season การใช้ทางด่วน และจะมีกำไรจากการร่วมขาย IPO หุ้น CKP ราว 50-60 ล้านบาทบันทึกใน 3Q13 ราคาหุ้นที่ปรับลงมาทำให้ PE ลดลงเหลือ 13.7 เท่าปีนี้และ 10.9 เท่าปีหน้า ขณะที่คาดว่ากำไรปกติในปีนี้จะเติบโต 32% Y-Y และปีหน้าเติบโต 26% Y-Y คิดเป็น PEG เพียง 0.4 เท่า
• SCC(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 540 บาท เสริมกำลังธุรกิจกระดาษ เอสซีจี เปเปอร์ลงนาม MOU กับ Nippon Paper Industries ของญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนในธุรกิจเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียน ช่วงครึ่งปีแรกรายได้จากเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียนอยู่ที่ 8.5 พันล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 30 ของรายได้ของเอสซีจีเปเปอร์ และสัดส่วนรายได้ของธุรกิจกระดาษในครึ่งปี 56 นี้คิดเป็น 14% ของรายได้รวมของ SCC จากการที่บริษัทเตรียมเข้าไปร่วมมือกับบริษัท NPI จะช่ายให้บริษัทมีศักย์ภาพในการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้าง Value Added ในกับผลิตภัณฑ์