นายหรรษา ชีวะพฤกษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านกิจการพิเศษ กสท. เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นเรื่องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยความเป็นเจ้าของเสาโครงข่ายคมนาคม คลื่นความถี่ 1800 MHz ระหว่างบริษัท และ ทรูมูฟ จำนวน 7,500 ต้น จากการที่ TRUE จะนำเสาโครงข่ายดังกล่าวนำไปเป็นสินทรัพย์ในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หลังจากสัญญาสัมปทานกับทรูมูฟ สิ้นสุดสัญญา 15 ก.ย.นี้
ขั้นตอนดำเนินการจะฟ้องถอนคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการที่ยื่นฟ้องไปก่อนหน้าจำนวน 4,500 ต้น โดยอนุญาโตตุลาการระบุว่ายังไม่ถึงเวลา แล้วค่อยนำกลับไปให้พิจารณาใหม่หลังหมดอายุสัมปทาน ส่วนอีก 3,000 ต้น เตรียมยื่นฟ้องทรุมูฟ เพื่อให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยความเป็นเจ้าของของเสาโครงข่าย
นอกจากนี้ กสท.ยังได้ส่งหนังสือไปให้ทาง ก.ล.ต. เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทรัพย์สินที่จะนำเข้าของทุนโครงสร้างสร้างพื้นฐานของ TRUE เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
"เราไม่ได้คัดค้าน TRUE ตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นนโยบายและประโยชน์ของบริษัท แต่ต้องการเห็นทรัพย์สินที่จะนำเข้ากองทุนไม่ใช่ทรัพย์สินที่อยู่ในข้อพิพาท และเราไม่ต้องการให้ทรัพย์สินที่เป็นสิทธิประโยชน์ของเราเอาเข้าไปกองทุนเพื่อเป็นประโยชน์ของเขา เราจึงต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับทรัพย์สินที่อยู่ในข้อพิพาทเท่านั้น โดย TRUE จะเอาเสาเข้ากองทุนที่เขาแจ้ง 13,000 ต้น แต่อยู่ในข้อพิพาท 7,500 ต้น โดยหลังสิ้นสุดสัมปทานเราจะยื่นฟ้องเพิกถอนคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการที่ตัดสินว่ายังไม่ถึงเวลาเรียกร้องเสา 4,500 ต้น และยื่นอัยการฟ้องอีก 3,000 ต้น ส่วน DPC โอนให้เสาให้เราหมดนานแล้ว 180 กว่าต้น"นายหรรษา กล่าว