ขณะที่บริษัทได้เลื่อนแผนออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP) ออกไปจากกำหนดเดิมในไตรมาส 3/56 เพื่อรอภาวะตลาดให้ดีขึ้นก่อน แต่ก็ยังจะออกไปทำโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันที่ฮ่องกงในช่วงต้นเดือนก.ย.นี้
นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ CNT กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 56 มีโอกาสเกินเป้าที่ตั้งไว้ 9 พันล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนการรับรู้รายได้จากงานระยะสั้นในปีนี้มากกว่างานระยะยาว โดยในช่วง 6 เดือนแรกบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 4.23 พันล้านบาท และมีมูลค่างานในมือ (backlog) ราว 8.5 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนก.ค. 56 โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมี backlog เพิ่มเป็นราว 1 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนของงานระยะยาวให้ใกล้เคียงกับงานระยะสั้นมากขึ้น โดยปัจจุบันสัดส่วนงานของบริษัทเป็นงานระยะสั้น 60% และงานระยะยาว 40% ซึ่งจะปรับเป็นงานระยะสั้น 50% และงานระยะยาว 50% เพื่อเป็นการบริหารทรัพยากรของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับแผนการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้ PP จำนวน 175 ล้านหุ้นขณะนี้ได้ตัดสินใจที่จะชะลอออกไปแบบไม่มีกำหนด จากเดิมที่คาดว่าจะออกได้ในช่วงไตรมาส 3/56 เนื่องจากบริษัทหารือกับบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวเกี่ยวกับภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ มองว่ายังมีความผันผวนมากและดัชนีเหวี่ยงตัวลง ทำให้ราคาหุ้นของ CNT ลดลง ทั้งนี้ แผนการออกหุ้นเพิ่มทุนจะครบกำหนดในเดือนมี.ค.57
“การออกหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP 175 ล้านหุ้น ที่เราจะขายให้กับสถานบันในประเทศและต่างประเทศ ตอนนี้เราขอดูภาวะตลาดก่อน ซึ่งตอนนี้จะดูเป็นทิศทางเหวี่ยงลง ส่งผลต่อราคาหุ้นของเราจากต้นปีอยู่ที่ 12-13 บาท ลดลงมาอยู่ที่ 5 บาทกว่าๆ ซึ่งการออกยังมี Discount อีก 10% ซึ่งถ้าออกตอนนี้ราคาจะต่าเกินไป คนอื่นอาจมองว่าเราเอาหุ้นออกมาเร่ขาย และ P/E ของเราก็ต่ำกว่าตลาดอีก เราก็มีคุยกับ underright ตลอด ที่จริงเราตั้งใจจะขายตั้งแต่ตอน 8 บาทแล้วล่ะ แต่เหมือนว่าภาวะตลาดก็ยังไม่แน่นอน เราก็มีประชุมบอร์ดในการปรับกลยุทธ์ ก็การออกหุ้นเพิ่มทุนครบกำหนดเดือนมี.ค. 57 ตอนนี้กระแสเงินสดของเราก็ยังพอรับไหวและเราก็มีขอวงเงินกู้แบงก์บ้างถ้าเราจะลงทุน ถ้าเราจะออกหุ้นเพิ่มทุนเราขอมั่นใจภาวะตลาดก่อนแล้วค่อยออก"นายสุรศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ แผนการออกหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทคาดว่าจะระดมทุนได้ราว 1-1.5 พันล้านบาท เพื่อนำไปใช้สำหรับการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์มาติดตั้งในโรงงานผลิตโครงเหล็กแห่งใหม่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่บริษัทได้ซื้อมาแล้วมูลค่า 140 ล้านบาท กำลังการผลิตเสาโครงเหล็กอยู่ที่ 1,000 ตัน/เดือน แต่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เต็มที่ราว 3,000 ตัน/เดือน โดยจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ภายในต้นต.ค.56 และเงินจากหุ้นเพิ่มทุนส่วนหนึ่งจะนำมาใช้ซื้อที่ดินเพิ่มอีก 10 ไร่ใกล้เคียงกับโรงงาน เพื่อเป็นที่พักพนักงานและใช้เป็น Working Cap ของบริษัทเพื่อรองรับงานในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่ฮ่องกงกลางเดือนก.ย. 56 เพื่อนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนที่เป็นกองทุนจากฮ่องกงที่มีความสนใจ หลังจากมีกองทุนจากญี่ปุ่นมีความสนใจเข้ามาเจรจากับบริษัทเดินทางมาติดต่อแต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอน