ตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ดีซี (KFI3MDC) จะเข้าลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วย ตราสารหนี้ VakifBank, ประเทศตุรกี, เงินฝาก Garanti Bank ประเทศตุรกี, เงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ BBB- , BBB- และ BBB ตามลำดับ ร่วมด้วยเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) ตราสารหนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ AA- และ A+ ตามลำดับ
ส่วนกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน เอเอช (KFF6MAH) ที่จะเสนอขายในสัปดาห์นี้ ยังคงให้โอกาสรับผลตอบแทน 3.10% เท่ากับกองทุนล่าสุดที่เสนอขายไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตราสารหนี้ที่จะเข้าลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Garanti Bank ประเทศตุรกี (BBB-/Fitch) เงินฝาก Bank of China สาขามาเก๊า (A/Fitch) ตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล (BBB-/Fitch) ตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A., ประเทศบราซิล (BBB+/Fitch) ร่วมด้วยเงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (A+/Fitch) พร้อมทั้งยังลงทุนใน ตราสารหนี้บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, ประเทศไทย ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ AAA โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ซีดับบลิว (KPPTF3MCW) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.40% ต่อปี