สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB21DA และ LB15DA (รุ่นอายุ 3.8 ปี, 8.3 ปี และ 2.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,760 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (RG14DA) มูลค่า 405.7 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (RG149A) มูลค่า 204.6 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (RG153A) มูลค่า 204.3 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 814.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.4% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,621 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 9,487 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,795 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.52% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.71% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับลดลงเล็กน้อยในตราสารอายุไม่เกิน 20 ปี ประมาณ 1-2 bps. โดยนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามในซีเรีย และล่าสุดจีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ Manufacturing PMI เดือน ส.ค.56 ที่ 51.0 เพิ่มขึ้นจาก 50.3 ในเดือน ก.ค.56 ซึ่งส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,795 ล้านบาท