ประกอบกับ บริษัทมีผลตอบแทนที่น่าสนใจ โดยกำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ
สำหรับเหตุการณ์ในซีเรียนั้น นายอภิสิทธิ์ มองว่า จะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อธุรกิจของ SEAOIL โดยหากมีสงครามเกิดขึ้นและไม่สามารถขนส่งน้ำมันได้ น้ำมันสำรองภายในประเทศเทศก็ยังสามารถใช้ได้ถึง 40 กว่าวัน และหากเกิดสงครามขึ้นจริงๆ ก็เชื่อว่าจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
ด้าน น.ส.นีรชา ปานบุญห้อม กรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ SEAOIL กล่าวว่า บริษัทมีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานและฐานะการเงิน ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งจะมีการขยายงานทั้งในส่วนของการจัดจำหน่ายน้ำมันทั้งทางทะเลและทางบก รวมถึงส่วนงานของธุรกิจจัดหาอาหาร วัตถุดิบ และให้บริการอื่นๆ แก่ที่พักอาศัยในทะเล เรือเดินทะเล และแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเล (Supply management) จึงมองว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะทำให้หุ้นของ SEAOIL มีความน่าสนใจและเป็นที่ต้องการของนักลงทุน
ส่วนนางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้น SEAOIL เชื่อว่า ราคาหุ้น SEAOIL จะปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าราคาจองซื้อ (ไอพีโอ) ที่ 3.45 บาท เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัทฯ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่องและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 53-55 อยู่ที่ 31.50% ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ย 50.86% ต่อปี และมีอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) สิ้นไตรมาส 2/56 สูงถึง 40.51%
ประกอบกับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 56 บริษัทมีรายได้ 1,322.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันเมื่อปีก่อน และมีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 56 อยู่ที่ 41.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 56.13% อีกทั้ง บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นสุดไตรมาส 2/56 มี D/E อยู่ที่ 1.00 เท่า ลดลงจาก 1.57 เท่าในปี 53
นอกจากนี้ ราคาหุ้นมีส่วนลดในระดับสูงซึ่งเป็นแรงจูงใจให้กับนักลงทุนเข้ามาลงทุนและสนใจซื้อ โดยส่วนลดที่สูงถึงร้อยละ 44 อีกทั้ง P/E ของบริษัทฯ ที่ 7.93 เท่า ซึ่งต่ำกว่า P/E ของบริษัทในกลุ่มพลังงานที่จัดจำหน่ายน้ำมันซึ่งได้แก่ PTG, SUSCO และ BAFS ที่ 14.06 เท่า จึงคาดว่าหุ้น SEAOIL จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และถือเป็นหุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน ถึงแม้ว่าภาวะในตลาดช่วงนี้จะมีความผันผวนก็ตาม
ขณะที่บทวิเคราะห์ของบล.โนมูระ พัฒนสิน ได้ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SEAOIL อยู่ที่ 4.84 บาท เนื่องจากบริษัทฯ มีจุดเด่นในการเป็นคู่ค้ากับบริษัทน้ำมันรายใหญ่ จึงทำให้บริษัทฯ สามารถจัดหาน้ำมันที่มีคุณภาพได้ในราคาต้นทุนต่ำ ขณะที่บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องมีการเก็บน้ำมันสำรองไว้ภายในบริษัท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจจำหน่ายน้ำมันและเชื้อเพลิงทางทะเลจากสัมปทานขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเลของภาครัฐที่คาดว่าจะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้แก่ธุรกิจจัดหาวัตถุดิบ และให้บริการอื่น ๆ (catering service และsupply management) แก่ที่พักอาศัยในทะเล เรือเดินทะเล และแท่นขุดเจาะในทะเล ของบริษัทด้วย
ด้านบล. ฟินันเซีย ไซรัส ได้ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SEAOIL อยู่ที่ 4.80 บาท เนื่องจากคาดว่า ผลการดำเนินงานส่วนใหญ่อิงอยู่กับการเติบโตของธุรกิจพลังงาน และมองว่าในระยะยาวอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานของซีออยล์ จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มพลังงาน