ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีปรับการบริหารจัดการภายในใหม่ทั้งหมด ทำให้ในปีนี้บริษัทมีต้นทุนลดต่ำลง ประกอบกับมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยโครงการใหม่จะมีอัตรากำไรที่สูงขึ้น ทำให้ปีนี้บริษัทจะกลับมามีกำไรได้
"ก่อนหน้านี้เราโดนผลกระทบต่อเนื่องมาจากเหตุการน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทมีผลประกอบการออกมาเป็นขาดทุน แต่เราก็ได้ปรับการบริหารจัดการใหม่ภายในบริษัทฯ ทำให้มีต้นทุนลดลง และ โครงการใหม่ๆของเราก็มีมาจิ้นที่สูงขึ้น เรามั่นใจจะกลับมาเป็นกำไรได้" นายสุทธิรักษ์ กล่าว
ครึ่งแรกของปี 56 บริษัทมีรายได้สุทธิ 438 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนที่มียอดโอน 342 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 28% โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 26.1 ล้านบาท มาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 5 โครงการ แบ่งเป็น 3 โครงการที่นนทบุรี และ 2 โครงการที่ภูเก็ต มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 2,958 ล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 700 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้บางส่วน เพื่อให้รองรับกับเป้าหมายการเติบโตของบริษัทที่ตั้งไว้ที่ 15-20% โดยบริษัทได้ขยายทำเลไปยังภาคอีสาน โดยเริ่มโครงการนำร่องที่จังหวัดสกลนคร ภายใต้แบรนด์ “สิริวิลเลจ"คือ โครงการ “สิริวิลเลจ สกลนคร-แอร์พอร์ต"เป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคาขายเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท จำนวน 34 ยูนิต มูลค่า 64 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการ อยู่ในโซนนนทบุรี ที่ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง เพียบพร้อมด้วยโครงการพัฒนาคมนาคมหลักๆ ตลอดจนสาธารณูปโภคพื้นฐาน
นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนเพื่อพัฒนาที่ดินในมือ เนื้อที่ ประมาณ 104 ไร่ ที่ต.กมลา จ.ภูเก็ต เป็นโครงการ Mixed Use Products ได้แก่ วิลล่า, โรงแรม และคอนโดมิเนียม ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ปี 58 เป็นต้นไป โดยอยู่ระหว่างการเตรียมการที่จะเริ่มพัฒนาที่ดิน มูลค่าโครงการประมาณ 3-5 พันล้านบาท ซึ่งจะเริ่มโครงการเฟสแรกในไตรมาส 2/57
นายสุทธิรักษ์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้ตั้งวงเงินลงทุนซื้อที่ดินใหม่ในปี 56-57 ราว 500-600 ล้านบาท ปัจจุบันก็ได้มีการใช้เงินซื้อที่ดินไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ยังได้เตรียมงบลงทุนในปี 57 ในการบริหารจัดการและก่อสร้างไว้อีก 700 ล้านบาท ในปัจจุบัน บริษัทยังมีที่ดินรอการพัฒนาในมืออีก 7 ผืน (รวมที่ดินที่ภูเก็ต ประมาณ 104 ไร่) จะทำให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากได้ชะลอตัวไปจากสภาวะน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 54
ทั้งนี้ มองภาวะตลาดอสังหาริมทรัพยในปัจจุบันยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้อาจจะชะลอตัวบ้าง แต่ยังมองแนวโน้มในปีหน้าจะยังมีการเติบโตได้ดีกว่าปีนี้ เนื่องจากภาครัฐจะมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้าอีก ส่วนแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดนั้น บริษัทฯยังมองว่ามีความต้องการอีก แต่ก็ต้องอยู่ในจังหวัดที่เหมาะสม และต้องดูความต้องการ และความสามารถในการซื้อด้วย ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการปรับราคาให้มีความเหมาะสม กับแต่ละจังหวัดที่ไป ก็ยังได้รับการตอบรับอย่างดี