"ปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนให้อุตสาหกรรมรถยนต์เติบโตได้คือการส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มที่ดี โดยครึ่งปีแรกมีการส่งออกรถยนต์ 0.53 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน...ครึ่งปีหลังนี้ยังมีความเสี่ยงจากตลาดรถยนต์ในประเทศที่ชะลอตัวลง และแผนการผลิตรถยนต์ที่ปรับลดลง ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ จะเติบโตกว่าปีก่อนไม่มาก"นายยงเกียรติ์ กล่าว
สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร ในครึ่งปีแรกคูโบต้าที่เป็นลูกค้าหลักรายหนึ่งของบริษัทมีการผลิตรถแทกเตอร์ประมาณ 30,000 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 7% และคาดว่าทั้งปีนี้คูโบต้าจะมีการผลิตรถแทรกเตอร์มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 10%
ส่วนอัตรากำไรสุทธิคาดว่าไตรมาส 3/56 จะดีกว่าไตรมาส 2/56 ที่อยู่ในระดับ 6.40% เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนในการสั่งซื้อเครื่องจักร
อย่างไรก็ตาม มองว่ายอดการผลิตรถยนต์คงจะผ่านจุดต่ำสุดในรอบปีในเดือน ส.ค.56 มาแล้ว โดยมียอดผลิตเพียง 2 แสนกว่าคัน และประเมินว่าในเดือนก.ย.นี้จะมียอดการผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการสามารถส่งออกรถยนต์ได้มากขึ้น
นายยงเกียรติ์ กล่าวถึงการเจรจากับบริษัท HINO ในประเทศญี่ปุ่นว่า การเจรจาเป็นผลสำเร็จและบริษัทจะเริ่มเดินหน้าผลิตชิ้ส่วนรถบรรทุกได้ในปี 58 ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 5 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1-2%