นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) มองตลาดหุ้นไทยจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้คงไม่ลงไปลึกแล้ว แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะปรับลงตามปัจจัยจากต่างประเทศที่ยังไม่นิ่งทั้งเรื่องการลดหรือชะลอมาตรการ QE และการโจมตีซีเรีย นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองในประเทศก็มีส่วนด้วย อย่างไรก็ตาม มองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET) ก็ยังมีโอกาสปรับขึ้นไปถึง 1,500-1,550 จุด หากไม่มีปัจจัยลบไปมากกว่านี้
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทย มี P/E ระดับ 11-12 เท่าในปี 57 จากที่ P/E เคยขึ้นไปสูงถึง 14 เท่ากว่า จึงเห็นว่า value invester จะกลับเข้ามาสะสมหุ้นและดัชนีก็คาดว่าไม่น่าจะลงลึก นอกจากสถานการณ์ปัจจัยจะเปลี่ยนไปจากนี้ เพราะหากเศรษฐกิจเอเชียไม่ดี เศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปก็จะฟื้นไม่ได้
"มองว่าตลาดหุ้นผันผวนแกว่งตัว เวลามีข่าวดีมาอาจไปได้ไม่ไกล เพราะเมื่อดีแล้วดีแล้วก็ไปมองว่านโยบาย QE ควรจะหยุด ก็กลายเป็นความกังวลว่าสภาพคล่องจะหมดไปจากระบบเลย ข่าวร้ายเวลาหุ้นลง ตอนนี้รู้สึก P/E บ้านเรากลับไป 11-12 เท่า ของปี 2014 เพราะฉะนั้นก็ดูเหมือนว่าม้นไม่น่าจะลงเยอะแล้ว"นายมนตรี กล่าว
ส่วนประเด็นการเมืองในประเทศ ก็มีการจับตาว่าล่อแหลมที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจนเกิดความขัดแย้งหรือไม่ แต่ขณะนี้เท่าที่ดูก็เห็นว่าทุกฝ่ายก็รอมชอม แต่นักลงทุนยังจับตาเรื่องนี้อยู่ ซึ่งให้น้ำหนักเรื่องปัจจัยการเมือง รวมเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวประมาณ 40% และ 60% เป็นปัจจัยจากต่างประเทศ