ทั้งนี้ บริษัทเน้นขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศ และขยายช่องทางเข้าสู่โมเดิร์นเทรดอื่นๆอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเพิ่มเป็น 50 แห่งทั่วประเทศภายในเดือนธ.ค.56 จากปัจจุบัน 45 แห่ง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สีทาอาคารของบริษัทมีแนวโน้มได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดและมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการผลักดันการเติบโตของธุรกิจ ขณะที่ยอดขายสีทนความร้อนในประเทศอินโดนีเซียเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้งหลังจากงวดปีก่อนยอดขายลดลงจากการออกกฎหมายควบคุมการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์
“ปีนี้ก็จะกลับมามีกำไรได้เพราะเรารู้ Best ของเราว่าอยู่ที่ไหน ก็มีผลบวกจากการขยายดีลเลอร์ในประเทศให้มากขึ้น ประกอบกับการผลิตของเราตอนนี้ก็ทำโอทีเกือบ 2 กะแล้ว เราก็จะเทรนคนงานให้เชี่ยวชาญมากขึ้น ส่วนยอดขายในอินโดนีเซียก็เริ่มเห็นกลับมาบ้างแล้ว แต่เรื่องสัดส่วนรายได้ของต่างประเทศตอนนี้กยังไม่มาก สำหรับในประเทศเองมีโอกาสขยายตัวได้มากแต่ขึ้นกับภาะเศรษฐกิจและการเมือง ตอนนี้เราก็มียอดขายเข้ามาแล้ว”นายสุรพล กล่าว
สำหรับการขยายตลาดไปในประชาคมอาเซียน (AEC) บริษัทคาดว่าภายในงวดปี 56/57 จะมีการแต่งตั้งดีลเลอร์รายแรกในอาเซียนได้ 1 ประเทศ โดยประเทศที่สนใจอย่างเช่น พม่า เป็นต้น เนื่องจากการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่มีการเติบโตมาก
นายสุรพล กล่าวว่า แผนการตลาดสีทาอาคาร DIMET จะเน้นการสร้างคาแร็คเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ โดยจะมุ่งเน้นการเป็นผลิตภัณฑ์สีระดับพรีเมี่ยมที่มีความโดดเด่นด้านการตกแต่ง ปลอดภัยกับผู้ใช้ ผู้อยู่อาศัย ซึ่งจะมีการทำกิจกรรมการตลาดผ่านทางช่องทางออนไลน์กับกลุ่มผู้ใช้แบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิตอล พร้อมทั้ง จะมีการสร้างแบรนด์ DIMET ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านกิจกรรมการตลาดหลากหลายรูปแบบ อาทิ การจัดโปรโมชั่นพิเศษ กิจกรรมแนะนำผลิตภัณฑ์ ณ จุดขาย การใช้สื่อโฆษณา การเข้าร่วมงาน EXPO รูปแบบต่างๆ รวมทั้งจะมีการขยายฐานลูกค้าทั่วไปและโครงการออกไปสู่หัวเมืองในส่วนภูมิภาคด้วยเช่นกัน