การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,384.31 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,352.85 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 627 หลักทรัพย์ ลดลง 152 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 126 หลักทรัพย์
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผุ้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแรงกว่าที่คาดไว้มาก โดยตลาดฯเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียและตลาดในยุโรปที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก มองว่าเป็นการตอบรับทิศทางเศรษฐกิจของต่างประเทศ
ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด มองว่าเป็นแรงหนุนของมาตรการ QE จากที่เคยคาดว่าจะยกเลิกเร็วอาจจะไม่ได้เป็นไปตามคาด และหากมีความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีซีเรีย ก็จะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบ ซึ่งก็มีผลต่อดัชนีหุ้นไทยด้วยจากที่มีน้ำหนักของหุ้นกลุ่มพลังงานอยู่มาก
นอกจากนี้ เศรษฐกิจของจีนก็กลับมาดีขึ้น ทำให้มีการมองว่าเศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/56)อาจจะมีการเร่งตัวขึ้น ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชียและเศรษฐกิจโลก
"ตลาดบ้านเรามองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และขณะนี้กำลังกลับสู่การฟื้นตัวขึ้นแล้ว เพียงแต่การขึ้นในวันนี้เป็นการขึ้นที่แรงกว่าที่คาดไว้มาก และมองว่าตลาดฯน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น"นายปริญทร์ กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(10 ก.ย.)นายปริญทร์ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโมเมนตัมในทางบวก แต่เนื่องจากวันนี้ขึ้นมาแรงแล้ว ดังนั้นพรุ่งนี้อาจจะไม่ขึ้นแรงอย่างวันนี้อีก แนะนำให้จับตาราคาน้ำมันดิบ หากยังมีการปรับขึ้นก็จะเป็นผลดีต่อกลุ่มพลังงานและภาพรวมตลาดฯ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,365-1,390 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,743.29 ล้านบาท ปิดที่ 7.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,506.41 ล้านบาท ปิดที่ 274.00 บาท เพิ่มขึ้น 21.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,217.24 ล้านบาท ปิดที่ 175.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,122.34 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,027.12 ล้านบาท ปิดที่ 342.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท