อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังเชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้ เพราะจะมีการลงทุนของภาครัฐทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำและโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่ถึงแม้โครงการภาครัฐอาจจะล่าช้ากว่ากำหนด ก็ยังได้รับแรงหนุนจากการลงทุนของต่างชาติที่มองเห็นศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ประกอบกับ ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างญี่ปุ่นและจีนในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนญี่ปุ่นย้ายฐานการลงทุนมายังไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารคาดกว่าสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ในปีนี้จะอยู่ในระดับราว 1% เท่านั้น
สำหรับการปล่อยสินเชื่อบุคคล ปัจจุบันธนาคารได้มีการตรวจสอบเครดิตบูโรและฐานเงินเดือนในการพิจารณาให้สินเชื่อ มองว่ายังไม่มีปัญหา และมีความสามารถในการชำระหนี้ แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะมีความกังวลการเร่งตัวของหนี้ภาคครัวเรือน
ส่วนสินเชื่อ SME ที่อาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินบาทผันผวนนั้น ธนาคารยังเชื่อว่าผู้ประกอบการยังบริหารจัดการต้นทุนได้ดีและมีกรป้องกันความเสี่ยงไว้แล้ว อีกทั้งไม่ได้มีหนี้สูงจนเกินไป เป็นผลจากประสบการณ์ที่ได้รับสมัยวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 เห็นได้จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีการบริหารจัดการหนี้ที่ดี มีเพียง 1% ที่อาจมีปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจที่จะชะลอลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาก็ควรมีความระมัดระวังมากขึ้นในการประกอบกิจการ
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด(เครดิตบูโร)กล่าวว่า บริษัทได้มีความร่วมมือการให้บริการรับคำขอตรวจเครดิตบูโรผ่านบริการ KTB Online นอกเหนือจากสาขา เครื่อง ATM และบริการ KTB Online@Mobile เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าของ KTB และประชาชนที่ต้องการตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งจะสามารถยื่นขอข้อมูลและชำระค่าธรรมเนียมการขอตรวจสอบในคราวเดียวกัน